เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2555 ที่ห้องออร์คิด แกรนด์บอลรูม โรงแรมภูเก็ต เกรซแลนด์ รีสอร์ทแอนด์สปา นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมด้วยนายประสาร ยอดต่อ นายชัยรัตน์ สุขบาล นายสมชาย บุรารักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ได้ร่วมกันแถลงข่าว ในหัวข้อ“สนทนากับนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองพร้อมคณะ” โดยมี สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม
ทั้งนี้นายเปี่ยน กล่าวว่า เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งที่ผ่านมา ทางเทศบาลเมืองป่าตอง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษา โดยการศึกษาต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และเป็นการเรียนรู้คู่คุณธรรม จึงได้ส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนในสังกัดและบริหารการจัดการเพื่อพัฒนาการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนโยบายด้านการศึกษาแล้ว ยังมีนโยบายด้านพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต โดยการวางแนวทางการบริการทางสังคมให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส นโยบายการพัฒนาด้านการบริหารจัดการ คือการนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เป็นแนวทางควบคู่กับการพัฒนา พร้อมทั้งจัดหาบุคลากร งบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ ให้มีความเพียงพอ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและทีมงานตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารเมืองป่าตองในทุกๆด้าน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับเทศบาลเมืองป่าตอง
นโยบายด้านเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน หลากหลาย ถือว่ามีความสำคัญยิ่ง นโยบายด้านพัฒนาสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการก่อสร้างถนนสายต่างๆ ส่งเสริมและพัฒนาคูคลอง นโยบายการพัฒนาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีการสนับสนุนการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ให้ครอบคลุมพื้นที่ป่าตอง ส่งเสริมสนับสนุนให้การบริการงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดระบบจราจรบริเวณถนนทวีวงศ์ และถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี และสุดท้ายนโยบายการพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นอกจากทรัพยากรบุคคลแล้ว ยังมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยต่อการพัฒนาศักยภาพป่าตองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของเทศบาลที่ได้ดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียว รณรงค์เรื่องลดภาวะโลกร้อนและการใช้พลังอย่างประหยัด พัฒนาระบบจัดเก็บขยะให้เข้ากับวิถีชีวิตของการเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อให้ป่าตองเป็นเมืองสะอาด สวยงาม และปราศจากมลภาวะ
ทั้งนี้นโยบายที่กล่าวมาทั้งหมดจะประสบความสำเร็จได้จะต้องได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วน นอกจากนี้ในปี 2558 ประเทศไทยจะต้องก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งเราจะต้องเร่งพัฒนาประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องของภาษา ที่ในอนาคตจะต้องมีการสื่อสารด้านภาษามากขึ้น ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญในจุดนี้เราจะกลายเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น