เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กับ หัวหน้าส่วนราชการ และนายอำเภอ (ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอ)
ในส่วนของบันทึกข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต (ศพส.จ.ภก.) โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กับส่วนราชการเกี่ยวข้อง และศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอ โดยนายอำเภอ ซึ่งได้เห็นชอบร่วมกันในการประกาศเจตนารมณ์เพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชนและสังคมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สร้างความเชื่อมั่น และอุ่นใจให้กับประชาชนในจังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยใช้ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เป็นหลักในการปฏิบัติ และให้น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดมาดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ
ทั้งนี้นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า หลังจากไปรับนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ประจำปี 2555 จากนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และทางกระทรวงมหาดไทย ได้ประชุมและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างปลัดกระทรวงมหาดไทยกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและนายอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ก็ได้กำหนดให้มีการประชุมเรื่องยาเสพติดและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขึ้นในครั้งนี้
สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เรื่องยาเสพติดให้บรรลุตามเป้าหมายที่ ศพส.ส่วนกลางกำหนดไว้ คือจะต้องลดความรุนแรงของยาเสพติดในพื้นที่ให้ได้ร้อยละ 80 และนำผู้เสพเข้าบำบัดจำนวน 4 แสนคน และให้บำบัดร้อยละ 80 ไม่กลับไปใช้ยาเสพติดอีก ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตในขณะนี้ได้ดำเนินการอยู่ในขั้นดี เพราะว่ามีตัวชี้วัดที่ชัดเจนทุกตัว และการลงนามในบักทึกข้อตกลงในครั้งนี้ก็จะเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่ง
โดยส่วนราชการที่ทำMOUกับผู้ว่าฯ จะต้องต้องไปขับเคลื่อนตัวชี้วัดทุกตัว ในขณะเดียวกันก็ต้องกำกับดูแล ซึ่งถ้าไม่ผ่านตัวชี้วัด ทั้งในส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด มีผลถึงเรื่องการโยกย้ายด้วย เพราะฉะนั้นตัวชี้วัดแต่ละตัวนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง
นายตรี ยังกล่าวอีกว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต ถ้าดูจากตัวชี้วัดการขับเคลื่อนขณะนี้ทำไปได้แล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผ่านมา 2 เดือนแล้ว เหลือเวลาอีก 4 เดือน ทางจังหวัดต้องขับเคลื่อนให้ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น