ความคืบหน้ากรณีมีเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบปลาน้ำจืดจำนวนมาก เช่น ปลาสวาย ปลายี่สก ปลาตะเพียนขาว ปลานิล เป็นต้น ตายอยู่บริเวณพื้นคลองแสนสุข ถ.อ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นลำคลองที่เชื่อมต่อกับทะเลมีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร สภาพเป็นน้ำกร่อย โดยมีการสันนิษฐานไปต่างๆ นานาจนถึงขั้นว่าเกี่ยวกับการจะเกิดภัยพิบัติ เนื่องจากในช่วงวันเดียวกันนี้ยังพบว่ามีปลาโลมาแม่ลูกว่ายน้ำเข้าหาฝั่งที่บริเวณหาดป่าตอง อ.กะทู้ด้วย
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 27 เมษายน 2555 นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายกะวิ สารณาคมน์กุล ประมงจังหวัดภูเก็ต นายธวัช ศรีวีระชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปยังบริเวณคลองแสนสุข เพื่อร่วมกันยืนยันว่าการตายของปลาดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีของภัยพิบัติไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวหรือสึนามิ แต่เป็นเรื่องของธรรมชาติ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับคลองแสนสุขเป็นคลองน้ำกร่อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมประมงได้มาเก็บข้อมูลและตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าปลาที่ตายนั้นเป็นปลาน้ำจืด มีทั้งปลาสวาย ปลาแรด และปลาจีน โดยเฉพาะปลาจีน เป็นปลาตามธรรมชาติ ไม่พบในแม่น้ำทางภาคใต้ แต่จะพบทางภาคอีสาน นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในลำคลองพบว่าสัตว์น้ำที่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำกร่อยหลายๆ ชนิดยังคงมีชีวิตปกติ เช่น ปลาหัวแข็ง ปลาตีน ปูก้ามดาบ เป็นต้น
จากการตรวจสอบของเจ้านี้ได้สันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่ในบ่อเลี้ยงของเอชนที่อยู่ใกล้ๆ กับลำคลองดังกล่าวหลุดลอดมา และเมื่อมาเจอสภาพน้ำเค็มไม่สามารถปรับตัวได้จึงทำให้ตาย และอีกประเด็น น่าจะมีพ่อค้าหรือแม่ค้านำมาเททิ้ง เนื่องจากปลาน้ำจืดจะขายได้ยาก และสังเกตจากสภาพปลาที่เกาะตัวกันเป็นกลุ่ม 2-3 ตัว ลักษณะคล้ายผ่านการแช่แข็งมาก่อน มีขนาดหรือน้ำหนักใกล้เคียงกัน เนื้อปลามีสภาพไม่สดและมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ยังพบกองเนื้อหอยโข่งที่แกะจากเปลือกแล้วอีกจำนวนหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับลางบอกเหตุว่าจะเกิดภัยธรรมชาติแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของปลาโลมา 2 แม่ลูกซึ่งว่ายเข้าฝั่งบริเวณหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตนั้นก็น่าจะเกิดจากการหลงฝูง และมีอาการเหนื่อยล้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำตัวออกไปกลางทะเลแล้ว และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ได้กลับเข้าฝั่งมาอีกเลย จึงไม่เกี่ยวกับสัญญาณบอกเหตุของภัยธรรมชาติแต่อย่างใด เพราะโดยปกติหากสัตว์ทะเลจะบอกเหตุก็น่าจะเข้ากันมาทั้งฝูง ไม่ใช่เข้ามาเพียง 2 ตัว นายสมเกียรติกล่าว
ขณะที่นายกวิ กล่าวยืนยันว่า จากการตรวจสอบทางวิชาการพบว่าทั้งสองเหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของภัยธรรมชาติ โดยในส่วนของปลาตายในลำคลองแสนสุขนั้นน่าจะมาจากปลาที่หลุดออกมาจากบ่อเลี้ยงของเอกชนในบริเวณใกล้เคียง หรือมีพ่อค้าแม่ค้านำมาทิ้ง เพราะสังเกตจากสภาพของปลาซึ่งเป็นปลาน้ำจืดและบางชนิดก็ไม่ใช่ปลาที่มีในภาคใต้ ส่วนของโลมา 2 แม่ลูกที่มีความยาว 1-2 เมตรนั้นซึ่งเข้าฝั่งบริเวณหาดป่าตองก็เช่นกัน เพราะหากสัตว์น้ำจะเตือนภัยธรรมชาติต้องเข้ามาทั้งฝูง แต่สาเหตุน่าจะมาจากการหลงฝูงและอ่อนล้า ซึ่งทางเจ้าหน้าก็ได้นำกลับสู่ทะเลแล้ว และไม่กลับเข้าฝั่งมาอีกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น