จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาภูเก็ตแก้ยาก ขาดการบังคับใช้กฎหมาย



เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายสรุปเรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ให้แก่ผู้เข้าอบรมหลักสูตรการทัพอากาศรุ่นที่ 46 วิทยาลัยกองทัพอากาศ กรมยุทธศึกษา ทหารอากาศ ว่า
จังหวัดภูเก็ตมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎรประมาณ 300,000 คน ขณะที่มีประชากรแฝงที่เข้ามาประกอบอาชีพอีกประมาณกว่าหนึ่งเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีแรงงานต่างงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนประมาณ 50,000 คน และยังไม่ขึ้นทะเบียนอีกจำนวนมาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวอีกปีละประมาณ 5-6 ล้านคน โดยได้มีการตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวปีละ 10%


“จากจำนวนผู้คนที่มีจำนวนมากและหลากหลายดังกล่าวก็ส่งผลให้มีปัญหาต่างๆ ตามมากมาย เช่น ปัญหาขยะ ปัญหาระบบขนส่งมวลชน ปัญหาน้ำในการอุปโภคบริโภค ปัญหาความแออัดบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ต ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ปัญหายาเสพติด เป็นต้น นอกจากนี้เรายังมีปัญหาเรื่องของภัยพิบัติซึ่งจะต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนทั้งในเรื่องของคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหว เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ถูกต้อง ลดความตื่นตระหนก และให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด” 


นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถที่จะแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และกลายเป็นปัญหาที่หมักหมม โดยเฉพาะปัญหาที่จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง แม้ว่าภูเก็ตจะทำรายได้จากการท่องเที่ยวปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท แต่เราได้รับงบในการพัฒนาจังหวัดปีละประมาณ 100 ล้านบาทเศษ 


อย่างไรก็ตามนายจำเริญ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่การแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากต้องรอการตัดสินใจและการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลกลางแล้ว ยังมีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานราชการต่างๆ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะต้องไม่ถูกแทรกแซงจากอำนาจที่มองไม่เห็น รวมทั้งจะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและไม่เป็นการไปรังแกประชาชน เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการปล่อยปละละเลย ไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ทำให้ปัญหาต่างๆ สะสมจนยากที่จะแก้ไขหรือต้องใช้เวลา ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น