เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ที่โรงแรม อิมพีเรียล โฮเทล โอซาก้า เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการกองการตลาดเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานเปิดงาน อะเมซิ่งไทยแลนด์โรดโชว์อินญี่ปุ่น 2012 ณ เมืองโอซาก้า ซึ่ง ททท.จัดขึ้น โดยนำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย อาทิ ภูเก็ต เชียงใหม่ ลำปาง เป็นต้น รวมจำนวน 57 ราย ทั้งผู้ประกอบการด้านโรงแรมที่พัก สปา กอล์ฟ และบริษัทนำเที่ยว
พบปะผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของเมืองโอซาก้า จำนวน 120 ราย นอกจากนี้ยังมีสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย เจแปนแอร์ไลน์ เป็นต้น ร่วมด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การนำของนายพงษ์อนันต์ สุวัณณาคาร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวมาร่วมกิจกรรมโรดโชว์ส่งเสริมการขายในครั้งนี้ด้วยจำนวน 20 ราย
นายอำนวย กล่าวว่า การจัดงานอะเมซิ่งไทยแลนด์โรดโชว์อินเจแปน ณ เมืองโอซาก้า มีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของไทยเข้าร่วมจำนวน 57 หน่วยงาน โรงแรม 47 หน่วยงาน สนามกอล์ฟ 5 แห่ง สปา บิวตี้แอนด์เวลเน็ท จำนวน 4 หน่วยงาน ดรีมปาร์ค จำนวน 3 แห่ง และอื่นๆ อีก 3 หน่วยงาน และได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเข้าร่วมงานจำนวน 120 หน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการขายแหล่งท่องเที่ยวประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้รู้จักมากขึ้น รวมทั้งเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไทยและญี่ปุ่นได้พบปะเจรจาหารือเพื่อเสนอซื้อและขายสินค้าท่องเที่ยวร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะได้รับทราบข้อมูลด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ ของประเทศไทย
ด้าน น.ส.สุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโอซาก้า กล่าวว่า ตลาดญี่ปุ่นและโอซาก้า แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักค่อนข้างดี ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุยและพัทยา ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย โดยขณะนี้ ททท.โอซาก้า อยู่ระหว่างการขยายตลาดใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้รู้จักมากขึ้น เช่น พังงา กาฬสิน เป็นต้น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นที่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทย ประมาณ 30% เป็นนักท่องเที่ยวจากโอซาก้า นอกจากนั้นจะเป็นจากโตเกียวประมาณ 60% และฟูกูโอกะประมาณ 10% โดยแหล่งท่องเที่ยวหลักที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่ ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น ดำน้ำ วิ่งมาราธอน เป็นต้น โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอนซึ่งจะมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจไปร่วมงานเป็นประจำทุกปี สำหรับภูเก็ตสามารถดึงตลาดมาราธอนได้ค่อนข้างดี ซึ่งในการไปร่วมงานเทรดแฟร์เกี่ยวกับการจัดแข่งขันมาราธอน เช่น โอซาก้ามาราธอน เป็นต้น ททท.ก็จะเชิญผู้ประกอบการจากภูเก็ตมาร่วมออกบูธด้วย
น.ส.สุกัญญา กล่าวด้วยว่า เหตุที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาเป็นเวลาถึง 125 ปี และในคราวที่เกิดภัยพิบัติของประเทศญี่ปุ่นทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยก็ส่งเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือ และเช่นเดียวกันในคราวที่ประเทศไทยเกิดภัยพิบัติทางผู้ประกอบการญี่ปุ่นก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือด้วย นอกจากนี้คนไทยกับคนญี่ปุ่นจะมีความเหมือนกันในเรื่องของความมีมิตรไมตรีที่ดี และชาวญี่ปุ่นจะรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปท่องเที่ยวโดยไม่ผ่านเอเย่นทัวร์มากถึง 70 % โดยที่เดินทางด้วยการใช้เอเย่นทัวร์มีเพียง 30% ดังนั้นการจัดโรดโชว์ในครั้งนี้หลังจากที่หายไปจากตลาดญี่ปุ่นประมาณ 3-4 ปีจะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวของไทยได้พบกับผู้ประกอบการธุรกิจของญี่ปุ่นโดยตรง เพราะจะทำให้สามารถเจรจาซื้อขายธุรกิจระหว่างกันได้ นอกจากนี้ในปีถัดไปก็อาจจะไปจัดที่เมืองอื่น เช่น นาโอย่า ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้ได้นักท่องเที่ยวที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น