เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ที่ศูนย์ประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดสัมมนา Phuket Creative Tourism เรื่อง ความสำคัญของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เนื่องในโอกาสประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมกันนี้ได้มีการเสวนาเรื่อง “ปรับความคิดท่องเที่ยวภูเก็ต เพื่อพิชิต AEC” การปาฐกถาพิเศษ
เรื่อง ความสำคัญของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ การเสวนาเรื่อง “สร้างภูเก็ตอย่างยั่งยืนด้วยการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” โดยมีสมาชิกสมาคม ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนักศึกษา เข้าร่วม
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปัจจุบันมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเกาะบาลี ประเทศอินโดนีเซีย เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย แล้ว ประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม ศรีลังกา เป็นต้น ก็พร้อมที่จะมีการนำเสนอและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลเช่นเดียวกับภูเก็ตเข้าสู่การแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวโลก ดังนั้นการสร้าง Creative Tourism คือ การนำเอาเอกลักษณ์และลักษณะเด่นของท้องถิ่นในต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมความเป้นอยู่มานำเสนอในรูปแบบของครีเอทีฟอะเมซิ่ง เพื่อให้ภูเก็ตมีภาพลักษณ์การท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความใหม่และสดในตลาดท่องเที่ยวของโลกตลอดไป
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมพร้อมและต้องมีความเข้าใจ คือ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในอีก 3 ปีข้างหน้า ประกอบด้วยการเปิดเสรีการค้า การบริการ การลงทุน การเคลื่อนย้ายเงินทุนและการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภูเก็ตจะต้องรับผลกระทบจากการเปิดเสรีดังกล่าวทั้งด้านบวกและลบ จำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจ ตลอดจนการวิเคราะห์ถึงโอกาสความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจึงมีความสำคัญ
โดยนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า เมื่อมีการรวมประชาคมอาเซียนแล้วจะมีประชาคมประมาณ 680 ล้านคน เมื่อในส่วนของเอเชียแปซิฟิก จะมีประชากรจำนวนประมาณ 120 ล้านคนเดินทางด้วยเครื่องบิน และจำนวนดังกล่าวประมาณ 53% ที่เดินทางไปช้อปปิ้งที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ดังนั้นการที่เราจะขายเฉพาะธรรมชาติเพียงอย่างเดียวไม่พอ เนื่องจากคนในกลุ่มอาเซียนจะมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน จึงจะต้องสร้างแรงดึงดูด ตัวอย่างของประเทศเกาหลี ซึ่งขณะนี้สร้างดิวตี้ฟรีขนาดใหญ่เพื่อดึงนักท่องเที่ยวในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก และลูกค้าประมาณ 90% มาจากประเทศจีน เนื่องจากเขาสามารถเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้จำนวนไม่จำกัด เป็นต้น
“แม้ภูเก็ตจะมีความได้เปรียบเพื่อนบ้านในละแวกนี้ เช่น บาหลี ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ด้วยความมีหาดทรายขาวสะอาด มีน้ำที่อุ่น ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวยุโรป แต่ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนก็พยายามสร้างสิ่งดึงดูด เช่น การขยายสนามบิน การสร้างสนามกอล์ฟ การลงทุนโรงแรม 4-5 ดาว เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นพม่า อินโดนีเซีย หรือมาเลเซียและประเทศอื่นๆ”
ด้านนายสุรเดช เกียรติธนากร บมจ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะมีปัญหาแต่ไม่กระทบกับเศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากยังคงมีความแข็งแรง และเศรษฐกิจปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 5% และต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากภาคการบริโภคยังเป็นบวกและการลงทุนของภาครัฐ รวมไปถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำและการขึ้นเงินเดือนซึ่งทำให้มีกำลังซื้อสูงขึ้น แต่เมื่อมีการเปิด AEC กลุ่มตลาดทุนต่างประเทศที่จะเข้ามามากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วในลักษณะการออกตราสารหนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการรายเล็กก็จะต้องมีการปรับตัวและเตรียมพร้อมโดยรวมตัวกันเพื่อระดมทุนให้สู้ในตลาดได้ เพราะเราได้เปรียบความแข็งแกร่งด้านท่องเที่ยว
ขณะที่ ดร.การดี เลียวไพโรจน์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การเปิด AEC ก็จะเป็นผลดีในแง่การท่องเที่ยวทำให้มีผู้คนเข้ามามากขึ้น แต่คนในกลุ่มอาเซียนจะไม่นิยมท่องเที่ยวในแง่ของเนเจอร์ ดังนั้นเราจะต้องมีการสร้างกลุ่มนักท่องเที่ยวและตลาดท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งในแง่ของการท่องเที่ยวนั้นบุคลากรก็มีส่วนสำคัญ และมองว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญ โดยในการพัฒนาด้านการศึกษา ส่วนตัวมองว่าเรื่องภาษาเรามีความสามารถอยู่แล้ว แต่จะต้องเพิ่มเรื่องระบบการบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการรู้จักแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างครบวงจร สำคัญสำหรับการท่องเที่ยว คือ การบริการที่ดีที่สุด คือการไม่ต้องให้บริการ หมายความว่าเราจะต้องสร้างระบบบริการให้ดีโดยไม่ต้องมีคำถามหรือปัญหาที่เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น