เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ที่ห้องรายา โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ต.บุญชัย มรินทร์พงษ์ รองผู้บัญชาทัพเรือภาค 3 เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต 3) ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2555 โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จาก 6 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ระนองและสตูล
อาทิ ตำรวจน้ำ ศุลกากร ประมงจังหวัด เจ้าท่า หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 เป็นต้น
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อหารือปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการดำเนินงานของหน่วยงานหลักใน ศรชล.เขต 3 ในรอบปีที่ผ่านมา, แนวทางการพัฒนากลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารฯ หลังจากได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางทะเลระหว่างหน่วยงานหลักใน ศรชล.ทั้งการจัดทำแผนงาน ฐานข้อมูล การเตรียมการด้านระบบสารสนเทศรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลฯ และการแต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบการดูแลฐานข้อมูล, แนวทางการบริหารจัดการ ศรชล.เขต 3 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการพิจารณากรอบแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ใน ศรชล.เขต 3 ในปีงบประมาณ 2556
พล.ร.ต.บุญชัย มรินทร์พงษ์ รองผู้บัญชาทัพเรือภาค 3 กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ ศรชล.เขต 3 ในรอบปีที่ผ่านมา ว่า ศรชล.เขต 3 เป็นหน่วยหนึ่งของ ศรชล.หลัก ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเป็นจำนวนมาก เช่น การป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมาย เช่น โรฮิงญา เป็นต้น ซึ่งได้มีการผลักดันออกไปเป็นจำนวนมากตามหลักมนุษยธรรม การป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติด ซึ่งมีบ้างส่วนใหญ่จะเป็นการเสพ หรือค้ารายเล็กๆ เพื่อนำเงินมาเสพ การป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรตามเกาะแก่งต่างๆ การป้องกันการลักลอบการทำประมงในเขตหวงห้าม เป็นต้น โดยผลสำเร็จมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน
“ภาพรวมของปัญหาในพื้นที่จังหวัดอันดามันไม่รุนแรงมากนัก ในอดีตเราเคยมีปัญหาชาวประมงลักลอบไปทำในเขตเพื่อนบ้านแต่ปัจจุบันรูปแบบเปลี่ยนไป โดยมีประมงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำประมงในเขตน่านน้ำบ้านเรา ส่วนปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรมีบ้างประปราย ขณะที่ปัญหาประมงต่างถิ่นเข้ามาทำประมงได้มีการเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อป้องปรามการกระทำผิด แต่ก็ยอมรับว่าปัญหายังมีอยู่บ้าง เช่น การลักลอบค้าน้ำมันหลบหนีภาษี เป็นต้น ซึ่งก็ได้มีการจับกุมดำเนินคดี”
พล.ร.ต.บุญชัย กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเฝ้าระวังทางทะเลนั้น ทางทัพเรือภาค 3 ได้มีการจัดวางกำลังทางเรือออกเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ A จ.พังงากับภูเก็ต พื้นที่ B บริเวณ จ.ระนอง และพื้นที่รอยต่อกับประเทศพม่า ส่วนพื้นที่ C จ.กระบี่ ตรังและสตูล ซึ่งสามารถเฝ้าตรวจดูแลพื้นที่ในลักษณะของการป้องปราม เพราะเป็นการกระจายกำลัง นอกจากนี้ทางกองทัพเรือยังได้มีการตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารฯ ในอนาคตการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารจะมีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของ ศรชล.ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานเป็นศูนย์อำนวยการฯ ซึ่งจะทำให้การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทำได้รวดเร็วขึ้น ไม่เกิดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณด้วย ขณะนี้แผนดังกล่าวเสร็จแล้ว และรอการให้ความเห็นชอบจากรัฐบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น