เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ฟื้นฟูการปลูกป่า และป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าไม้จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับทราบและพิจารณาแผนปฏิบัติการ และมาตรการส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่า และป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ป้องกันจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดินจังหวัด อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว เป็นต้น
นางสาวสมหมาย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเร่งรัดให้มีการปลูกป่าเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการป้องกันลักลอบบุกรุกทำลายป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งที่ 2193/2555 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2555 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูการปลุกป่า และป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าไม้ จังหวัดภูเก็ตขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรอำนวยการ และบูรณาการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ระหว่างอำเภอและจังหวัด จึงได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการดังกล่าว เพื่อให้การปฏิบัติการ และการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ มีการบูรณาการอย่างเป็นระบบที่มุ่งต่อผลสัมฤทธิ์ และมีการขับเคลื่อนนำไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดและอำเภออย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าของจังหวัดภูเก็ตซึ่งปัจจุบันมีปัญหาค่อนข้างมาก
ตัวแทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว และมีการตั้งชุดเฉพาะกิจแต่ละด้านขึ้นมาดำเนินการ แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ขาดหายไป ดังนั้นจึงทำให้ขณะนี้ยังไม่มีแผนปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งก็จะได้รับไปดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ก็จะได้ประสานกับทางอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการร่วมป้องกันและแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติให้มากขึ้น
ขณะที่ตัวแทนจากอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้มีการรายงานถึงการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกครอบครอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถเพื่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ทหรู ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแนวเขตของโครงการขนาดใหญ่จำนวน 10 โครงการที่มีการก่อสร้างว่ามีการรุกล้ำเขตอุทยานฯ หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสิทธิที่ดินของแต่ละแปลงที่มีการนำมาใช้กล่าวอ้าง เบื้องต้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ 4 บริษัทที่ได้มีการปลูกสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตอุทยานฯ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่คาดว่าจะทราบผลได้ภายในกลางเดือนกันยายนนี้ เหตุที่ต้องใช้เวลานานเนื่องจากมีความซับซ้อนและจะต้องดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หลังจากดำเนินการในส่วนของรายใหญ่ๆ เรียบร้อยแล้วก็จะต้องดำเนินการในรายอื่นๆ ที่มีปัญหาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น