เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ท.ปัญญา มาแม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย นายลุยจิ มารัลดิ (Luigi Maraldi) อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันแถลงข่าว จากกรณีเจ้าของพาสปอร์ต จำนวน 2 ราย คือ นายคริสเตียน โคเซล (Christan Kozel) อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย กับนายลุยจิ มารัลดิ (Luigi Maraldi) อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี
ที่ออกมาระบุว่า ไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจมีผู้นำพาสปอร์ตของเขาไปใช้ เนื่องจากพาสปอร์ตสูญหายในช่วงที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และได้มีการแจ้งความหายไว้ด้วย และมีรายงานข่าวด้วยว่า 1 ใน 2 รายดังกล่าว คือ นายลุยจิ มารัลดิ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต
และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรกะทู้ ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้มีการตรวจสอบและพบว่านักท่องเที่ยวดังกล่าวพักอาศัยอยู่ภูรินัฐเกสเฮ้าส์ ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จึงได้ไปเชิญตัวมาพูดคุย ร่วมกับทาง พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาสปอร์ตที่มีการแจ้งหาย และพบว่ามีการถูกนำไปใช้เดินทางด้วยสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ดังกล่าว
ด้านพล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลกรณีที่มีผู้กล่าวอ้างว่า มีการแจ้งความพาสปอร์ตหายไว้ที่ จ.ภูเก็ต แต่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งสูญหาย เบื้องต้นพบว่านาย ลุยจิ มารัลดิ ชาวอิตาลี ได้แจ้งความหนังสือเดินทางหายไว้หายไว้ที่ สภ.กะทู้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 แต่พาสปอร์ตหายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 หลังจากนั้นก็ได้เดินทางออกจากประเทศไทยและเดินทางกลับมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 ขณะที่รายของนายคริสเตียน โคเซล อายุ 30 ปี ชาวออสเตรีย มีการแจ้งหายไว้เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2556 แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าแจ้งที่พื้นที่ไหน
อย่างไรก็ตามเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลแล้วก็ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. พบว่า นาย ลุยจิ มารัลดิ ชาวอิตาลี พักอยู่ที่ภูรินัฐเกสเฮ้าส์ ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้เชิญตัวมาสอบถามข้อมูล ที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และจากการสอบถามทราบว่า ได้มีการแจ้งความพาสปอร์ตหายไว้จริงในคราวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2556 โดยได้นำไปเช่ารถจักรยานยนต์ เมื่อนำรถมาคืนทางพนักงานแจ้งว่ามีคนมารับพาสปอร์ตไปแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ และเดินทางกลับประเทศโดยใช้พาสปอร์ตชั่วคราว และเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอีกครั้ง เนื่องจากชอบเมืองไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคมและเข้าพักเกสเฮ้าส์ที่ป่าตองดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบถามนาย ลุยจิ มารัลดิ ชาวอิตาลี เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็กล่าวว่า ทราบเรื่องจากการที่ครอบครัวและญาติโทรศัพท์มาสอบถาม รวมทั้งการติดตามจากสื่อต่างๆ ค่อนข้างตกใจมาก เพราะไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบินดังกล่าว รวมทั้งได้ยืนยันไปกับทางครอบครัวและญาติแล้วว่าตนยังมีชีวิตอยู่ และสบายดี โดยมีกำหนดเดินทางกลับไปประเทศอิตาลีในวันที่ 15 มีนาคมนี้ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเดินทางไประเทศมาเลเซียเลย และพร้อมให้ความร่วมกับเจ้าหน้าที่ของไทยอย่างเต็มที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น