เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที และ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง ผบก.ตร.ภจว.ภูเก็ต ตลอดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา คือ นายสุนทร ลิ่มสกุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.13 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) หนัก 950 กรัม โดยสามารถจับได้ที่ด่านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ภูเก็ต นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) หนักอีก 1 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณทางเข้าวัดศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
ทั้งนี้พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 ได้กล่าวว่า สำหรับการจับกุมตัวนายสุนทร ลิ่มสกุล ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ด่านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า เครือข่ายยาเสพติดของนายกี่ โหนทรายทอง ซึ่งเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีการนำยาเสพติดผ่านด่านตรวจเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตผ่านทางรถประจำทางสายกรุงเทพ – ภูเก็ต จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมได้ขณะโดยสารรถประจำทาง โดยผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนยาเสพติดจาก อ.โคกกลอย เข้ามาส่งในจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้นำสิ่งของไปทิ้งไว้ยังจุดนัดหมาย และให้ตนไปรับในจุดดังกล่าว จากเข้าให้นำมาส่งต่อที่ จ.ภูเก็ต โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาทหลังทำงานสำเร็จ
อีกรายคือนายยุรนันร์ ศรีสวัสดิ์ ซึ่งหลบหนีไปได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา บริเวณทางเข้าวัด ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งผู้ต้องหาได้ทิ้งของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ต่อมาตรวจสอบรถ จยย.พบว่ามี น.ส.อรัญญา บำรุงฤทธิ์เป็นผู้ครอบครอง โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีนายยุรนันท์ ศรีสวัสดิ์แฟนหนุ่มได้นำรถคันดังกล่าวไปใช้พร้อมกับยืนยันรองเท้าแตะที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุ โดยน.ส.อรัญญาเป็นผู้ซื้อให้ เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องหาที่หลบหนีไปคือ นายยุรนันท์ หลังจากมีการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ โดยชุดปราบปรามยาเสพติดยืนยันรูปพรรณได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะได้รวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไปโดยเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับและกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงและการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ภาค.8 ยังคงน่าเป็นห่วง ในช่วง 1 – 2 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่หลายราย และมีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง จากข้อมูลพบมีความพยายามที่จะนำยาเสพติดประเภท 1 จากนอกพื้นที่เข้ามายังพื้นที่ภาค 8 เนื่องจากมีความต้องการสูงขึ้น ขณะที่ยาเสพติดชนิดที่ระบาดในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นพืชกระท่อมก็ยังคงมีจำนวนมาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มมากขึ้น จึงต้องมีการปรับแผนเป็นการสาวให้ถึงตัวการใหญ่เพื่อตัดต้นทางลำเลียงไปสู่ผู้ค้ารายย่อย อีกทั้งสืบสวนจากรายย่อยเพื่อสาวไปถึงรายใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มเงินปลอบขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจำนวน 2 หมื่นบาท หากเข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดแล้วเกิดการยิงปะทะ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น