เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมสำนักงานกลุ่มงานสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายถาวร จิรพัฒนะโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางสาวพรศรี สุทธนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 (ภูเก็ต) นายสันต์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันประชุม ถึงปัญหาของเตาเผาขยะ ที่เกิดการชำรุดและสามารถใช้งานได้เพียงเตาเดียว พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ่อฝังกลบขยะซึ่งมีทั้ง 5 บ่อ ที่อยู่ในการดูแลของเทศบาลนครภูเก็ต ภายหลังจากที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อฝังกลบขยะในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ในหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศได้เกิดปัญหาไฟไหม้บ่อฝังกลบขยะ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณที่ฝังกลบขยะค่อนข้างรุนแรง โดยในส่วนของภูเก็ต มีศูนย์กำจัดขยะซึ่งรวบรวมขยะจากทั่วทั้งจังหวัดมาทำการกำจัดที่นี่ โดยอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครภูเก็ต ประกอบด้วย โรงเตาเผาขยะและบ่อฝังกลบขยะ จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ่อฝังกลบขยะซึ่งมีทั้ง จำนวน 5 บ่อ โดยขณะนี้มีขยะเต็มแล้ว 5 บ่อ คือ บ่อที่ 1 กับบ่อที่ 4 และจากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่บ่อที่ 5 ซึ่งมีพื้นที่ 32 ไร่เศษ
ขณะนี้มีปริมาณขยะค่อนข้างล้นมากมาเป็นเวลา 5 เดือน และในส่วนของพื้นที่ด้านล่างจะเป็นขยะที่ทำการฝังกลบเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ล้นออกมานั้นจะมีการนำไปกำจัดที่โรงเตาเผาขยะ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 เตา แต่เตาที่ 1 ชำรุด อยู่ระหว่างรองบประมาณในการซ่อมแซม ส่วนเตาที่ 2 บริหารงานโดยเอกชนอยู่ระหว่างการปรับปรุงและจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ และจะทยอยนำขยะมาทำการกำจัดพร้อมขยะกับที่เข้ามาใหม่เข้าระบบเตาเผา
“ระบบกำจัดขยะของภูเก็ตเป็นระบบรวมศูนย์ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งจะมีการนำขยะจากพื้นที่ต่างๆ มารวมไว้ที่นี่ โดยแยกไปประมาณ 10% เป็นขยะรีไซเคิลระดับชุมชน ดังนั้นการบริหารจัดการขยะเป็นเรื่องใหญ่ 15 ปีย้อนหลัง ขยะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 7.3% แต่ในปีที่ผ่านมามีขยะเพิ่มขึ้นถึง 9.8 % ทางจังหวัดจึงมีความเป็นห่วงและกังวลอย่างยิ่ง โดยทางเทศบาลฯ ของบประมาณผ่านทางจังหวัดจำนวน 530 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงในส่วนของเตาเผาที่ 1 ดังนั้นหากเตาเผาสามารถเปิดใช้งานได้ทั้ง 3 เตาจะสามารถกำจัดขยะได้วันละ 950 ตัน”
นายไมตรี กล่าวว่า แม้ว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะยังไม่พบว่ามีปัญหาเรื่องของไฟไหม้เกิดขึ้นในบ่อฝังกลบขยะ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันอากาศในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร้อนมาก และถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้ โดยทางเทศบาลฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีการเตรียมรถแบ็คโฮหากเปิดปัญหาขึ้นก็จะนำมาใช้เพื่อตัดช่วงของจุดที่เกิดไฟไหม้ได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้การกำจัดขยะแบบฝังกลบมีบ่อฝังกลบจำนวน 5 บ่อ ประกอบด้วย บ่อที่ 1 เนื้อที่ 11.74 ไร่ มีการฝังกลบและปิดบ่อแล้วโดยมีขยะ 33,094 ตัน บ่อที่ 2 พื้นที่ 15.62 ไร่ มีการฝังกลบเต็มโดยมีขยะอยู่ประมาณ 43,209 ตัน ปัจจุบัน รอรื้อเข้าเตาเผาขยะ บ่อที่ 3 พื้นที่ 17 .19 ไร่ ปัจจุบันมีขยะฝังกลบเต็มจำนวน 45,572 ตัน ปัจจุบันปรับเป็นอุทยานการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม บ่อที่ 4 พื้นที่ 39.66 ไร่ มีขยะฝังกลบเต็มปิดบ่อ 130,134 ตัน ปัจจุบันรอรื้อขยะเข้าเตาเผา และบ่อที่ 5 พื้นที่ 36.29 ไร่ ฟังกลบเต็ม จำนวน 117,313 ตัน ปัจจุบันรอรื้อขยะเข้าเตาเผา
ส่วนของโรงเตาเผาขยะมี 2 ส่วน คือ ส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ก่อสร้างโรงเผาขยะมูลฝอยชุมชน ขนาด 250 ตันต่อวัน สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด 2.5 เมกะวัตต์ เมื่อปี 2538 และได้ถ่ายโอนให้แก่เทศบาลนครภูเก็ตมาตั้งแต่ปี 2542 และได้ทำการเผาขยะของจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันเตาเผาดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากสภาพชำรุด และกำลังอยู่ระหว่างการขอสนับสนุนงบประมาณในปี 2558 จำนวน 530 ล้านบาท ในการซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้
ส่วนที่ 2 เป็นโรงงานเตาเผาขยะของเอกชน ซึ่งก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 เป็นเตาเผาขยะชุมชนขนาด 359 ตัน 2 ชุด สามารถเผาขยะได้ 700 ตันต่อวัน ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 10 เมกะวัตต์ แต่ปัจจุบันเตาเผาขยะดังกล่าวสามารถเดินเครื่องได้เพียง 1 ตัว เนื่องจากอีกตัวกำลังอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ทำให้ปัจจุบันสามารถกำจัดขยะได้วันละ 350 กว่าตันเท่านั้น ทำให้มีขยะเหลืออีกประมาณ 300 กว่าตัน ต้องนำไปฝังกลบ แต่คาดว่าประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้การซ่อมบำรุงในส่วนของเตาเผาขยะของเอกชนจะแล้วเสร็จ และสามารถลดปริมาณขยะที่จะเข้าสู่ระบบฝังกลบได้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น