เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ที่เรือนจำกลาง จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การนำของนายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดภูเก็ต โดยการนำของนายธรรมรงค์ ช่วยอักษร ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต โดยการนำของ พ.ต.ท.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน
เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงภายในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันก็ได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของผู้ต้องขังจำนวน 300 คนจากผู้ต้องขังทั้งหมด 2,831 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังหญิง จำนวน 447 คน และผู้ต้องขังชาย 2,384 คน ปรากฏว่า ไม่พบผู้มีสารเสพติดแต่อย่างใด ขณะที่การตรวจค้นเรือนนอนก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงช้อนตักข้าวและเหล็กแหลมขนาดเหล็ก 1 อัน
ทั้งนี้นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจู่โจมตรวจค้นดังกล่าวสืบเนื่องจากนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้สั่งการให้เรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำของตัวเอง ซึ่งในส่วนของเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นอกจากการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ แล้วยังได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัด และเจ้าหน้าศูนย์ยาเสพติด
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ในการช่วยเหลือสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้สั่งการให้ทางตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตส่งกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 50 นายมาร่วมตรวจค้นภายในเรือนนอนของผู้ต้องขังด้วย และผลจากการตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยที่มีการตรวจพบบ้างก็เป็นช้อน และหนังสือลามกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรือนจำจังหวัดภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็นเรือนจำสีขาวมาเป็นเวลา 4 – 5 ปี และเพื่อรักษามาตรฐานดังกล่าวไว้ ในส่วนของเรือนจำก็ได้มีการตรวจค้นเป็นประจำเดือนละ 1 – 2 ครั้ง นอกจากดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ เองแล้ว ยังได้ประสานร่วมกับหน่วยงานของทางจังหวัดทั้งปกครองจังหวัดตำรวจและสาธารณสุขมาร่วมด้วย ประกอบกับมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเวรยามตลอดจน 24 ชั่วโมง
และก่อนที่จะมีการอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกจากเรือนนอนในแต่ละวันก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราบริเวณริมกำแพงเรือนจำ เพื่อป้องกันการโยนสิ่งของเข้ามา นอกจากนี้ยังได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติของผู้ต้องขังด้วยว่า หากยังมีการโยนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามา เมื่อมีการตรวจพบผู้ที่ต้องรับโทษก็คือผู้ต้องขัง รวมทั้งในส่วนของตัวญาติเองด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความมือเป็นอย่างดี รวมไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบบริเวณรอบๆ เรือนจำด้านนอกอย่างสม่ำเสมอเช่นหัน นายระพินทร์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น