ผู้ประกอบการเกาะราชาภูเก็ต หารือภาครัฐ
แก้ปัญหา นทท. เก็บปะการังและยิงสัตว์น้ำ
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ที่เกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสฤษดิ์ จันทร์ดี ประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเอง เกาะราชาใหญ่ นายดนัย ภู่เจริญ ประธานชมรมพัฒนาเกาะราชาใหญ่ และผู้ประกอบการบนเกาะราชา ได้มีการประชุมร่วมกับ นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวเก็บปะการัง และยิงปลาในบริเวณพื้นที่เกาะราชา หลังจากมีภาพการเก็บปะการังเผยแพร่ทางสื่อโซเซียล
นายสฤษดิ์ จันทร์ดี ประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเอง เกาะราชาใหญ่ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวเก็บปะการังเทียม และการใช้อาวุธดำน้ำยิงปลา ในพื้นที่บริเวณเกาะราชา ตามสื่อโซเซี่ยล ทำให้ภาพลักษณ์ของเกาะราชาเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการบนเกาะราชา ได้มีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นชมรมฯ เพื่อดูแลความเรียบร้อย และมีการออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติอย่างชัดเจน แต่ภาพที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของผู้ประกอบการจากภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุมของชมรมฯ อีกทั้งไม่มีอำนาจในการจับกุมหรือจับปรับกับผู้กระทำผิด
โดยในแต่ละวันมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาบนเกาะราชาประมาณ 1,700 คนจึงอยากให้มีเจ้าหน้าที่ของส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล มาประจำบนเกาะ อย่างน้อย 1 คน เพื่อเข้ามาดูแลและร่วมแก้ปัญหาที่เกิด โดยในช่วงทดลอง 3 เดือนแรก หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะได้ดำเนินการจับกุมส่งพนักงานสอบสวนได้ทันที
นอกจากนี้ให้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทดำน้ำที่นำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำ ว่า ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือดำเนินการตามหลักสากลของการดำน้ำหรือไม่ เพราะมีภาพที่นักท่องเที่ยวนำอุปกรณ์ดำน้ำมาใช้เป็นเครื่องมืออุปกรณ์ยิงปลา อีกทั้งให้มีติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ข้อควรระวังหรือมาตรการต่างๆ ของทางทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบนเกาะด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจและปฏิบัติตาม
“สาเหตุส่วนหนึ่งของปัญหาที่นักท่องเที่ยวเก็บหรือเหยียบปะการัง คือ บางครั้งผู้ที่นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไม่ได้อธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ หรือบางครั้งผู้ที่นำนักท่องเที่ยวมาก็ไม่สามารถควบคุมหรือดูแลนักท่องเที่ยวได้ทั่วถึง ทำให้เกิดภาพนักท่องเที่ยวเก็บปะการังหรือเหยียบปะการัง แล้วนำไปแชร์ต่อๆ กัน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อพื้นที่ ทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการบนเกาะได้มีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา” นายสฤษดิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น