ขยะเกาะราชาน้อยปริมาณกว่า 1.2 ตันส่วนใหญ่เป็นขวด
นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) เปิดเผยผลการจำแนกขยะที่เก็บได้จากบนฝั่งและใต้ทะเลบริเวณเกาะราชาน้อย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อต้นเดือน มีนาคม 2560 ว่า หลังจาก สบทช.6 ได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.ภูเก็ต) กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และนักดำน้ำอาสาสมัคร รวม 50 คน
จัดกิจกรรมจัดเก็บขยะที่ตกค้างในระบบนิเวศที่สำคัญ โดยการมีส่วนร่วม พื้นที่เกาะราชาน้อย ภายใต้โครงการบริหารจัดการขยะทะเลระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2560-2564 เป็นระยะเวลา 5 ปี ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เพื่อปรับปรุงรูปแบบ กลไก วิธีการจัดการขยะทะเลอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ และเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับติดตามการจัดการขยะทะเล โดยเน้นดำเนินการจัดการขยะทะเลอย่างเป็นระบบ ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งประสบปัญหาขยะทะเลและในระบบนิเวศทางทะเลที่สำคัญ
สำหรับการจัดเก็บขยะบริเวณเกาะราชาน้อย ซึ่งมีดำเนินการทั้งบนฝั่ง และในทะเล ปรากฎว่าสามารถทำการจัดเก็บได้ทั้งหมด 1,226 กิโลกรัม จำแนกได้ดังนี้ 1.ประเภทขวดพลาสติก จำนวน 265 กิโลกรัม 2.ประเภทขวดแก้ว จำนวน 424 กิโลกรัม 3.ประเภทกระป๋องจำนวน 46 กิโลกรัม 4.เศษเชือกและอวนจำนวน 244 กิโลกรัม 5.โฟม จำนวน 19 กิโลกรัม 6.ไฟแช็ค จำนวน 2.2 กิโลกรัม 7.ถุงพลาสติก จำนวน 62 กิโลกรัม 8.รองเท้า จำนวน 48 กิโลกรัม และขยะอื่นๆ (เสื้อผ้า หมอน หมวกกันน๊อค เศษผ้าใบ เศษโลหะ) จำนวน 115.8 กิโลกรัม
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ขยะที่มีการจัดเก็บได้ดังกล่าวนั้นมีทั้งที่อยู่ใต้น้ำและขึ้นมาเกยบนชายหาดของเกาะราชาน้อยที่มีความยาวประมาณ 150 เมตร โดยเป็นขยะทางทะเลที่ถูกคลื่นซัดมารวมกัน มีทั้งขยะจากชายฝั่ง(เกาะภูเก็ต) ขยะจากการท่องเที่ยว ขยะจากเรือประมงและถูกคลื่นซัดมารวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สามารถจัดเก็บขยะทางทะเลได้รวมกันมากถึง 1.2 ตัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างจิตสำนึกและให้ตระหนักถึงความสำคัญของการไม่ทิ้งขยะลงในทะเล เพราะจะส่งผลกระทบกับทรัพยากรทางทะเลเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น