นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาเมืองป่าตองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ว่า
ตั้งแต่ตั้งต้นปี 2563 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19
จนถึงปัจจุบันป่าตองยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวค่อนข้างหนัก
เนื่องจากรายได้หลักเรามาจากการท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เมื่อมีการปิดเมืองและปิดน่านฟ้าทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้
ทำให้กระทบกับการประกอบธุรกิจเป็นอย่างมาก
และส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขอปิดตัวชั่วคราว เพื่อรอดูสถานการณ์
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการปิดเมือง
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิตค่อนข้าง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องกักตัวเพื่อดูอาการ
ทำให้เทศบาลฯ ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเข้ามาดูแล
ทั้งการจัดหาอาหารกล่องและถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
จนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลาย และมีการเปิดเมืองเปิดตำบลตามปกติ
แต่ต้องมาวางแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมือง
เนื่องจากยังไม่มีชาวต่างชาติเข้ามา
จึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างสีสันต์ให้กับเมือง
รวมทั้งดึงดูดคนไทยให้เดินทางเข้ามา ได้แก่ การจัดงานหรอยริมเล
ซึ่งจะจัดต่อเนื่องทุกวันศุกร์และเสาร์ตลอดเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้น
ซึ่งช่วยได้ระดับหนึ่ง”
นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าวด้วยว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ของโรคจะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีปัญหาตามมาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาเมือง เนื่องจากรายได้ในปีงบประมาณ 2563 ที่จะนำมาใช้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งในส่วนของรายได้ที่เทศบาลฯ จัดเก็บเองซึ่งประมาณการไว้ที่ 300 ล้านบาท แต่เก็บได้ประมาณ 30 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการลดภาษีลง 90 % ในขณะที่งบอุดหนุนจากรัฐบาลประมาณ 300 ล้านบาท ก็ลดลงเหลือประมาณ 240 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของเงินเดือนและค่าจ้าง ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2564 ได้ประมาณการรายรับไว้ที่ 420 ล้านบาท
ในส่วนของโครงการที่จะต้องดำเนินการ แม้จะไม่มีงบประมาณ นั่นคือ โครงการสายไฟลงดินบริเวณถนนทวีวงศ์ (ถนนหน้าชายหาด เป็นงบประมาณเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อยู่ระหว่างดำเนินการในส่วนของโครงสร้างโยธา) คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2564 และโครงการปรับปรุงถนนทวีวงศ์ เพื่อให้เกิดความสวยงาม โดยได้ขออนุมัติจากสภาฯ ใช้งบสะสม จำนวน 55 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงวงเวียนราชประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างป่าตองกับกะรน เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ไม่ได้อยู่ในแผนงาน คือ การปรับปรุงถนนป่าตอง-ไตรตรัง ซึ่งเกิดปัญหาดินสไลด์และทรุดตัวในช่วงที่ฝนตกหนัก หากไม่ดำเนินการจะส่งกระทบต่อการทำธุรกิจฝั่งทางใต้ของป่าตอง
แต่ก็มีหลายโครงการที่ต้องชะลอไว้ก่อน เช่น โครงการติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วเมืองป่าตอง เพื่อดูแลด้านความปลอดภัย ที่จะดำเนินการ 3 เฟส งบประมาณ 36 ล้านบาท, การปรับปรุงถนนที่ซอยคอกหมู, การก่อสร้างท่อระบายน้ำถนน 50 ปี งบประมาณ 40 ล้านบาท เป็นต้น เนื่องจากไม่ใช่โครงการเร่งด่วนหรือเป็นโครงการฉุกเฉินสามารถรอได้ โยขณะนี้เทศบาลเมืองป่าตองมีเงินสะสมประมาณ 100 ล้านบาท แต่ก็จะนำมาใช้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น และเราก็ยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะนานไปขนาดไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น