เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2554 ที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าปลีกและแผงลอยจำหน่ายสินค้าในหาดป่าตองจำนวนประมาณ 300 คน รวมตัวประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรม พร้อมแผ่นป้ายข้อความต่างๆ เช่น ทำไมต้องรังแกคนทำมาหากินด้วย (ส่วย) ทำนาบนหลังคน ไม่รู้จักพอ (ส่วย) เราจ่ายแล้วทำไมยังจับอีก เป็นต้น หลังจากก่อนหน้านั้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00.วันเดียวกัน ได้มีตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ สว.ฉก.ปพ.บก.ป.พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธีรภัทร์ ดารมณ์ รอง.สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุมนายอนุพงษ์ สกุลเดชอุดม เจ้าของแผงค้าในศูนย์การค้าโอท๊อป เลขที่ 237/14 ถ.ราษฏร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ พร้อมยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น กระเป๋า นาฬิกา กว่า 100 ชิ้น ส่งดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่อง หมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร
ด้านตัวแทนผู้ชุมนุมประท้วงกล่าวว่า เหตุที่ต้องรวมตัวกันมาประท้วง เนื่องจากมีตำรวจกองปราบ สังกัดกอง 5 มาแจ้งกับผู้ค้าปลีกว่า จะยกเลิกกติกาหรือการจ่ายส่วยเดิมรายเดือนที่ตกลงกันไว้ โดยจะมีการเรียกเก็บส่วยเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่การจ่ายรายเดือนที่ผ่านมาทำกันมานานเป็นสิบๆ ปี และอยู่ร่วมกันได้ทั้งสองฝ่าย แต่วันนี้มีกลุ่มบุคคลลุกขึ้นมาแล้วบอกว่าจะไม่เอากติกาเดิมอีก ซึ่งผู้ประกอบรับเงื่อนไขไม่ได้และไม่สนองตอบด้วย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องรังแกกัน ดังนั้นหากยังมีการจับกุมกันเช่นนี้อยู่อีก ผู้ประกอบการในนามของชมรมร้านค้าปลีกหาดป่าตอง ซึ่งมีสมาชิกกว่า 620 ร้านค้า จะนัดรวมพลสมาชิกของชมรมกว่า 1,000 คน กันมาชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้
ขณะที่ พ.ต.ท.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ สว.ฉก.ปพ.บก.ป.กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการปฎิบัติตามหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสามารถที่จะสอบถามไปได้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียกรับส่วยตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น