เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2554 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร สี่แยกท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำคณะข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้าและประชาชน ร่วมวางพวงมาลาถวายเป็นสักการะและสดุดีท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทรกันอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทรและบรรพชนผู้กล้าที่ได้ร่วมกันปกป้องแผ่นดินเมืองถลาง ให้อนุชนรุ่นหลังได้ร่วมกันตระหนักถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของบรรพชนที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตในการป้องกันรักษาแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานได้ถึงทุกวันนี้
สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีประวัติศาสตร์เก่าแก่อันยาวนาน นับย้อนหลังเมื่อ 226 ปีที่ผ่านมา สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ภูเก็ตเดิมเป็นเมืองถลาง และในปี 2328 พม่าได้แต่งกองทัพเรือยกเข้าตีหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันตกถึงเมืองถลาง ขณะนั้นพระยาพิมลเจ้าเมืองถึงแก่อนิจกรรม คุณหญิงจันภริยาเจ้าเมืองถลาง และคุณหญิงมุกน้องสาว ได้ใช้ความปรีชาสามารถรวบรวมเมืองต่อสู้กองทัพพม่ารักษาเมืองถลางให้รอดพ้น จากการย่ำยีของกองทัพพม่าไว้ได้เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2328 เกียรติคุณและวีรกรรมอันอาจหาญครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งคุณหญิงจันเป็นท้าวเทพกระษัตรี และตั้งคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2509 นายอ้วน สุระกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับชาวเมืองภูเก็ตก่อสร้างอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทรไว้ที่สี่แยกท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ลักษณะเป็นรูปปั้นดำหล่อด้วยทรงสัมฤทธิ์สองท่านอยู่ในท่ายืนมือถือดาบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เสด็จพระราชดำเนินเปิดอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2510 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ก็จะเห็นรูปปั้นทั้งสองท่านยืนเด่นเป็นสง่าบริเวณเส้นทางถนนเข้าเมืองภูเก็ต และในวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี จังหวัดได้กำหนดจัดงานเพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองภูเก็ตที่มีมากว่า 220 ปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติประวัติและตระหนักถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของวีรสตรีทั้งสองท่าน
อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ ได้มีพิธีเปิดงานเทศกาลเฉลิมฉลองวันชนะศึกของสองวีรสตรีภูเก็ตท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ประจำปี 2554 ที่บริเวณอนุสรณ์สถานถลางชนะศึก อ.ถลาง ซึ่งจัดให้มีการแสดงแสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทรเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนม์มายุ 84 พรรษา เป็นการเทิดทูนวีรกรรมอันหาญกล้าของสองวีรสตรี แสดงถึงพลังความรัก ความสามัคคีของชาวเมืองถลางในการปกปักษ์รักษาแผ่นดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลังตราบจนทุกวันนี้ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยนำประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองมาเป็นสื่อในการนำเสนอเรื่องราวให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเมืองถลาง นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน ณ ลานศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ การแสดงลิเกฮูลู ลิเกป่า รองเง็ง หนังตะลุง และการแสดงตันหยง การออกร้านจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ มากมาย โดยงานจะจัด ไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น