เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 54 ทางกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเหตุพายุพัดเรือประมงขนาดเล็กขนาดความยาว 19 วาจมลงบริเวณกองหินหมูสัง ห่างจากฝั่งจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 17 ไมล์ทะเล ไปทางทิศตะวันออกใกล้เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ทำให้ครอบครัวแซ่อุ๋ย จำนวน 3 คน ต้องรอยคอกลางทะเลลึกนานกว่า 2 ชั่วโมง หลังรับแจ้งพลเรือโทชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งให้เรือ ต. 221 โดยมี ร.อ.ณัฐวุฒิ ตุลาพันธุ์ ผู้บังคับการเรือ ออกไปให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนท่ามกลางคลื่นลมแรง
เมื่อเรือ ต. 221 เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่ามีคลื่นลมแรง พบเรือชาวบ้านจำนวน 3 คน โดยในจำนวนดังกล่าวมีเด็กอายุ 8 ขวบรวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้ง 3 ได้เกาะเรือที่อยู่ในลักษณะคว่ำ ลอยคออยู่ โดยบริเวณจุดเกิดเหตุมีคลื่นสูงประมาณ 2 – 3 เมตร การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามให้ความช่วยเหลือจนชาวประมงทั้ง 3 คน ที่ลอยคออยู่กลางทะเลรอดชีวิตขึ้นมาบนเรือได้ และนำตัวกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือศูนย์ศึกษาวิจัยประมงทางทะเล แหลมพันวา ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตมาได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ร.อ.ณัฐวุฒิ ตุลาพันธุ์ ผู้บังคับการเรือ ต. 211 ได้กล่าวว่า จากการออกไปช่วยเหลือในครั้งนี้ ได้รับการสั่งการณ์จากผบ.กองเรือภาค 3 ก็ได้เดินทางออกไปช่วยเหลือ และพบว่าทั้ง 3 กำลังเกาะเรือลอยคออยู่กลางทะเล รอความช่วยเหลืออยู่กลางทะเลในสภาพที่อิดโรย และหวาดผวา ท่ามกลางคลื่นขนาดใหญ่พัดถล่มอยู่ตลอดเวลา ขึ้นมาบนเรือ จากการสอบถามก็ทราบชื่อนายสมบูรณ์ แซ่อุ๋ย อายุ 56 ปี นายพิเชษฐ์ แซ๋อุ๋ย อายุ 28 ปี และดช.ภูมินทร์ แซ่อุ๋ย อายุ 8 ปี ทั้งหมดพักอยู่บ้านเลขที่ 26 ถ.รัษฎา ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ได้นำทั้งหมดขึ้นที่ท่าเรือศูนย์ศึกษาวิจัยประมงทางทะเล แหลมพันวา ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ในเวลา 19.30 น. โดยมี น.อ.สมนึก เปรมปราโมทย์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ คอยให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก
จากการสอบถามนายพิเชษฐ์ แซ่อุ๋ย ก็ทราบว่า ตนเอง พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ บิดา และ ด.ช.ภูมิมินทร์ บุตรชาย อายุ 8 ขวบ ได้นำเรือประมงซึ่งเป็นเรือหางยางขนาดเล็ก ยาวประมาณ 18 เมตร ใช้เครื่องยนต์คูโบต้า ชนิด 3 สูบ เดินทางออกจากฝั่ง จ.ภูเก็ต บริเวณคลองมุดง ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เวลาประมาณ 12.00 น. เพื่อออกไปหาปลาบริเวณกองหินหมูสัง ห่างจากฝั่งทะเล จ.ภูเก็ต ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 17 ไมล์ทะเล
หลังจากนั้นเวลาประมาณ ในเวลาประมาณ 15.45 น. ได้เกิดฝนตกและพายุลมแรง ทำให้เกิดคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร พัดเข้าหาเรือ ทำให้เรือพลิกคว่ำ เครื่องยนต์หลุดจมลงสู่ก้นทะเล ตนเองพร้อมด้วยบิดา และบุตรชาย ต้องว่ายน้ำหนีตายพยุงตัวเพื่อเอาชีวิตรอดมาด้วยความทุลักทุเล ท่ามกลางกระแสคลื่นขนาดใหญ่ที่พัดถล่มอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่ได้นำถุงกันน้ำติดตัวไปด้วย จึงสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตบุตรชายให้พยุงตัวลอยตัวอยู่กลางทะเลได้อย่างปลอดภัย
นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวอีกว่า เมื่อตั้งสติได้จึงดำน้ำไปเอาโทรศัพท์มือถือ ที่เก็บไว้ในถุงกันน้ำซึ่งติดอยู่ภายในตัวเรือออกมา เพื่อโทรศัพท์แจ้งข่าวและขอความช่วยเหลือผ่านทาง นางวิยะดา แซ่อุ๋ย ภรรยา ก่อนที่ภรรยาจะขอความช่วยเหลือไปยัง ทัพเรือภาคที่ 3 จนกระทั่งเรือของทหารเรือมาช่วยเหลือ ทำให้มีความรู้สึก เหมือนกับตายแล้ว เกิดใหม่ เพราะขณะนั้น ตนเองและครอบครัวทั้ง 3 คน เริ่มหมดแรงใกล้จะจมน้ำเสียชีวิต และไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ เนื่องขณะนั้นถูกคลื่นลมขนาดใหญ่พัดกระหน่ำอยู่ตลอดเวลา จึงขอขอบคุณทางทัพเรือภาคที่ 3 ที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น