เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นประธานจัดกิจกรรมวันสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา จำนวน 3,500 คน เข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนั้นยังมีการเดินรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต” เดิมชื่อว่า “วิทยาลัยครูภูเก็ต” ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2514 ซึ่งตรงกับวันเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การครองราชย์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งวิทยาลัยครูภูเก็ตเมื่อ วันที่ 14 มิถุนายน 2539 และหลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามวิทยาลัยครูใหม่ว่า “สถาบันราชภัฏ” วิทยาลัยครูภูเก็ตจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สถาบันราชภัฏภูเก็ต”
และเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2547 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏได้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ทำให้สถาบันราชภัฏทั่วประเทศ เปลี่ยนสถานภาพเป็น มหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏจะเป็นแหล่งความรู้และที่พึ่งของท้องถิ่นรวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการศึกษาของประเทศ มีพันธกิจหลักในการสร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างระบบการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสร้างองค์ความรู้ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น อีกทั้งยังมีการผลิตผลงานทางด้านงานวิจัย ด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
ผศ.ดร.ประภา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย ในช่วงเช้าจะทำพิธีทางศาสนา จากนั้นในช่วงสาย จะเป็นกิจกรรมส่งเสริมในระบบประชาธิปไตย ทั้งนี้เนื่องจากในปีนี้จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ทางมหาวิทยาลัยจึงจัดการบรรยาย เรื่อง ประชาธิปไตย กับปัญญาชนรุ่นใหม่ และเดินรณรงค์ เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจเลือกตั้ง เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจและเห็นความสำคัญในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิ์ครั้งแรก โดยส่วนตัวมองว่าผู้ที่จะเข้ามาในสภาหรือนายกรัฐมนตรีนั้นจะต้องเป็นคนดี มีความเสียสละและสามารถนำพาประเทศชาติให้เจริญได้
ทางด้านนายวีระพล ปลูกพืช ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อายุ 22 ปี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนจะได้ใช้สิทธิ์เป็นครั้งแรก ซึ่งมองว่า พลังของกลุ่มนักศึกษาจะเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ เพราะจะเป็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่ช่วยรณรงค์ให้คนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และผู้ที่จะเข้าไปในสภาจะนั้น จะต้องเป็นคนที่จริงใจ ไม่ซ้ายหรือขวา และคิดแต่จะทำประโยชน์แก่บ้านเมือง
ส่วนนางสาวรุยานี หลงจิ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อายุ 19 กล่าวในทำนองเดียวกันว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ตนได้ใช้สิทธิ์เป็นครั้งแรกเหมือนกัน มีความตื่นเต้นมาก และเราในฐานะนักศึกษาจะช่วยรณรงค์ ชักชวนให้ผู้มีสิทธิ์ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะหนึ่งเสียงของเราก็สามารถกำหนดอนาคตประเทศได้ โดยส่วนตัวจะเลือกคนคนดี มีความรู้ที่สามารถพัฒนาประเทศ ดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น