เมื่อคืนของวันที่ 14 กรกฎาคม 54 ที่บริเวณถนนสายอนุสาวรีย์ เมืองใหม่ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ภูเก็ต ได้มีชาวบ้านตำบลป่าคลอกประมาณ 200 คน ได้นำถังขยะ – รถจักรยานยนต์ พร้อมเครื่องกีดขวางอื่นๆ นำมาปิดถนน เพื่อไม่ให้รถที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีป้ายผ้า ที่ได้เขียนข้อความหน่วยงานรับผิดชอบ ว่า “ร้องเรียนเท่าไร ไฟก็ไม่ติด อุบัติเหตุบ่อย ขโมยก็ชุม ขอประจานหน่อยหน่วยงานที่รับผิดชอบ” “มีเสาไฟฟ้า ไม่มีไฟแล้วท่านจะสร้างไปทำไม” “อบต.ป่าคลอก ดีแต่พูดไม่มีประสิทธิ์ภาพ” “ชาวบ้านทนไม่ไหวแล้ว” เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการยางรถยนต์มาเผาบนถนนด้วย เพื่อให้เกิดความสว่างแทนไฟฟ้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบเข้ามาเจรจาและแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านโดยด่วน ทำให้รถยนต์ทุกชนิด ที่ไม่สามารถสัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง นำโดย พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.ท.พิศิษฐ์ ชื่นเพชร รองผกก.สส. พ.ต.ท.ประสาน โตวอน สวป. ได้เดินทางเข้ามาเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง การเจรจาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการให้ชาวบ้านเปิดถนนเพื่อให้รถที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวผ่านไปมาได้ก่อนแล้วมานั่งเจรจากัน แต่ชาวบ้านไม่ยอม อ้างว่าเดือดร้อนมาแรมปี ร้องเรียนทุกหน่วยงานแต่ไม่มีใครหน่วยงานใด มาเหลียวแล รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นถนนสี่เลนและไม่มีไฟฟ้าริมถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย และบาดเจ็บนับไม่ถ้วน และอยากจะคุยกับผู้รับผิดชอบโดยตรงทั้ง ผู้บริหารอบต.ป่าคลอก – แขวงการทางภูเก็ต – กรมทางหลวงภูเก็ต เท่านั้น
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานหน่วยงานที่ทางชาวบ้านเรียกร้อง ประกอบด้วย ประธานสภาอบต.ป่าคลอก สมาชิกสภาอบต.ป่าคลอก ผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอถลาง เพื่อเจรจาขอร้องให้ชาวบ้านดับไฟที่จุดอยู่กลางถนนและยอมเปิดถนนให้ชาวบ้านสัญจรไปมาได้ก่อน เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่สัญจรไปมาบนเส้นทางดังกล่าวจำนวนมาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางรายก็ไม่ได้กลับที่พักซึ่งอาจกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดได้ โดยเน้นย้ำว่าจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปคุยกับผู้ว่าราชการภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในวันอังคารนี้ (19) ซึ่งทางผู้นำท้องถิ่นได้รับปากชาวบ้านว่าภายใน 7 วัน ถนนสายดังกล่าวจะต้องมีไฟฟ้าส่องสว่างแน่นอน หากไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเกี่ยวข้อง ชาวบ้านจะกลับมาปิดถนนประท้วงอีกครั้ง จากนั้นชาวบ้านพอใจ และยอมสลายการชุมนุมประท้วง
ด้านนายประคอง พลายกวม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก ม.8 กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางสายหลักของด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตใครที่จะลงเรือไปเที่ยวเกาะพีพี จ.กระบี่ เกาะยาวใหญ่-เกาะยาวน้อย จ.พังงา เกาะกระดาน จ.ตรัง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในฝั่งอันดามันอีกหลาย ทำให้ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวสัญจรไปมาจำนวนมาก ซึ่งตนและชาวบ้านป่าคลอก ก็ได้ยื่นหนังสือต่อนายวิชัย ไพรสงบ (ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้น) เพื่อให้ขยายเส้นทางจาก 2 เลน เป็น 4 เลน รองรับการท่องเที่ยว และเพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว รวมทั้งลดปัญหาอุบัติเหตุอีกด้วย จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปี 2553 ก็มีการสร้างถนนสายดังกล่าวจุดเริ่มต้นการขยายเส้นทางตั้งแต่วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ถึง หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก รวมระยะเส้นทางทั้งสิ้น 5.5 กิโลเมตร งบประมาณ 80 ล้านบาท หลังจากที่มีการก่อสร้างถนนเสร็จ รถที่สัญจรไปมาบนเส้นทางดังกล่าว ก็ขับเพิ่มความเร็วขึ้น ทำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกิโลเมตรที่ 3 – 4 ของการก่อสร้าง ไฟฟ้าริมถนนไม่เคยติด ในช่วงเวลากลางคืนจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนั้นขโมยก็ชุกชุมแอบย่องลักทรัพย์ชาวบ้านแล้วหลายราย
นายประคอง กล่าวอีกว่า ตนได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นเข้าไปพูดในสภาอบต.ป่าคลอก แต่ผู้บริหารอบต.ก็ไม่เคยเหลียวแล หรือแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจในการจัดการดูแล ให้ไปร้องเรียนแขวงการทางหรือกรมทางหลวง เมื่อตนไปร้องเรียนแขวงการ ก็บอกว่าไม่มีอำนาจ ให้ไปร้องเรียนผู้รับเหมาเอาเอง ซึ่ง 3 หน่วยงานนี้ จะโยนลูกปัดความรับผิดชอบ จนชาวบ้านสุดทน ก็ได้ออกมาปิดถนนและจุดยางรถยนต์กลางถนน เพื่อประชดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ที่ไม่เคยเหลียวแล แก้ไขปัญหาชาวบ้าน ซึ่งจากนี้ตนจะนำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้กำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เพราะหากปล่อยไปแบบนี้จะเกิดอุบัติเหตุ-อาชญากรรม เพิ่มสูงขึ้น อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต ซึ่งวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านโดยด่วน ส.อบต.ป่าคลอก กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น