นายสราวุธ สีสาคูคาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว (อบต.ไม้ขาว) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากมีหนังสือร้องเรียนของทางโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ว่ามีสิ่งปลูกสร้างด้วยไม้ไปวางอยู่บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ บริเวณใกล้กับพื้นที่ของโรงแรมดังกล่าว ทำให้ดูไม่เรียบร้อย อาจจะเกิดความขัดแย้งและเป็นอันตรายได้ โดยได้เคยแจ้งไปยัง อบต.ไม้ขาวและ อ.ถลางแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับรองผู้ว่าราชการ
จังหวัดภูเก็ต (นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์) พบว่า สิ่งปลูกสร้างที่มีการร้องเรียนเป็นซุ้มไม้จำนวน 1 ซุ้ม และจากตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถแจ้งว่าไม่ได้อยู่ในเขตของอุทยานฯ แต่น่าจะอยู่ในเขตพื้นที่สาธารณะประโยชน์มากกว่า โดยพื้นดังกล่าวอยู่ในความดูแลของทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งก็คือ อบต.ไม้ขาว
“จากการประชุมร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อทุกฝ่ายรวมถึงตัวแทนของทางโรงแรมด้วย ได้ข้อสรุปว่า มอบหมายให้ อบต.ไม้ขาวทำหนังสือถึงที่ดินส่วนแยกอำเภอถลาง เพื่อขอให้มาทำการรังวัดแนวเขตระหว่างพื้นที่ของอุทยานฯ ซึ่งมีการปักเขตไว้เรียบร้อยแล้ว พื้นที่สาธารณประโยชน์ที่อยู่ในความดูแลของอำเภอถลางกับ อบต.ไม้ขาว และแนวเขตที่ดินบริเวณด้านหน้าของโรงแรมดังกล่าวทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องแนวเขตระหว่างที่ดินของรัฐกับที่ดินเอกชน รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่ามีพื้นที่บริเวณใดมีการบุกรุกเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพราะจะต้องรอหนังสือจากทางศูนย์ดำรงธรรมฯ ส่งมายัง อบต.ก่อน”
นายสราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบางส่วน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากมีการช่วยเหลือจัดทำซุ้มให้กับกลุ่มหมอนวดที่เป็นชาวบ้านให้ได้ประกอบอาชีพ ส่วนในครั้งนี้เหตุที่ต้องขอให้ตรวจสอบแนวเขตที่ดิน ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกภาคส่วน โดยในส่วนของพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบยังไม่มีปัญหาในลักษณะเช่นนี้ แต่ปัญหาการบุกรุกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.ไม้ขาว ยังมีพื้นที่บริเวณพรุเจ๊ะสันกับพรุจิก โดยมีการไปตั้งร้านค้าจำหน่ายสินค้าแบบเช้ามาเย็นกลับ ซึ่งทาง อบต.ไม้ขาวมีแนวคิดในการปรับภูมิทัศน์และจัดทำซุ้มจำหน่ายสินค้าให้กับชาวบ้านเพื่อป้องกันปัญหาการบุกรุกเพิ่มและเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามนายสราวุธ กล่าวด้วยว่า หากมีการพบการบุกรุกพื้นที่สาธารณะก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และจะเอาจริงกับทุกฝ่าย เพื่อจะยึดคืนพื้นที่สาธารณประโยชน์กลับคืนมาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพราะพื้นที่สาธารณะไม่ใช่เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และจะมีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่นายวิชาติ พันธ์คง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวชี้แจงว่า ในส่วนของแนวเขตอุทยานฯ ทางกรมอุทยานฯ ได้มีการสำรวจและปักมุดแนวเขตไว้เรียบร้อยแล้ว ระยะทางตั้งแต่บริเวณชายหาดบ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว จนถึงบริเวณชายหาดรายัน ต.เชิงทะเล รวมประมาณ 30 กิโลเมตร โดยวัดจากแนวชายฝั่งทะเลขึ้นมาบนฝั่งประมาณ 5 เมตร ถัดจากนั้นก็จะเป็นที่สาธารณประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น