เมื่อเที่ยงของวันที่ 21 มิถุนายน 2555 ที่ห้องประชุมสิมิลัน โรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พร้อมด้วยพ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต, นายสมบัติ อติเศรษฐ์ประธานกรรมการโรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ได้ร่วมกันแถลงข่าว เหตุนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ถูกคนร้ายจำนวน 2 คน เข้ากระชากกระเป๋าสะพาย แต่ผู้เสียหายขัดขืน ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายจนเสียชีวิตไป 1 ราย และได้รับ
บาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายกะตะน้อย ห่างจากหน้าลอบบี้โรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ประมาณ 300 เมตรเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายน 2555
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า จากกรณีที่ นางสาวสมิทธ มิเชล อลิชซาเบท (Smith Michelle Elizabeth) อายุ 60 ปี สัญชาติออสเตรเลีย สภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่หน้าอกด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจทะลุปอด 1 แผล เสียชีวิตคาที่ และนางสาวลินนี่ แทมมี่ ลี ( Lynin Tammee Lee) อายุ 45 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ถูกมีดฟันด้วยมีดเข้าที่บริเวณต้นแขนด้านขวา 1 แผล แพทย์ต้องเย็บ 24 เข็ม ขณะเดินกลับจากรับประทานอาหารที่หาดกะตะ ได้ถูกคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ โดยใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายต่อสู้ จึงถูกทำร้ายดังกล่าว
โดยหลักฐานที่ได้จากภาพ CCTV คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีน้ำเงิน คนขับสวมเสื้อสีขาว กางเกงสีทึบ คนซ้อนท้ายสวมเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ หลังก่อเหตุคนร้ายก็ได้ขับรถจยย.หลบหนีไปทางหาดกะตะ และขับต่อไปจนกระทั่งไปสิ้นสุดที่จุดไหนรู้เส้นทางแล้ว สุดท้ายที่จุดไหน กำลังดำเนินการ บางภาพไม่ชัด เห็นป้ายแต่ไม่ชัด กำลังให้ช่างเทคนิคมาดูภาพ และนำภาพขึ้นจอใหญ่ เพื่อหารายละเอียดให้มากกว่านี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับชาวออสเตรเลีย และขออภัยที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยให้ได้
ด้านนายสมบัติ ได้กล่าวถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยของทางโรงแรมว่า ก่อนอื่นก็ต้องแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยกัน และนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียทุกคน ในด้านของทางโรงแรมมีมาตรการในการป้องกันภัย โดยมีกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ทั้งหมด 110 จุด นอกโรงแรมมีจากจุดลงเขาจนถึงบริเวณถนนด้านนอก ระยะทาง 800 เมตร มีกล้อง จำนวน 8 จุด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงแรมตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 23 นาย และก่อนหน้านี้ทางโรงแรมได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลกะรน เพื่อขอเพิ่มไฟฟ้าแสงสว่างบนถนน นอกจากนี้ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจตราภายในถนนเส้นนี้ให้บ่อยขึ้น ซึ่งทาสงโรงแรมได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ทั้งในเรื่องชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า
นายสมบัติยังกล่าวอีกว่า มาตรการหลังจากนี้จะต้องปรึกษากับตำรวจ เพื่อให้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจและ รปภ. มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจุดตรวจ ป้อมยาม ประสานงานกับชุมชนเพื่อขออาสาสมัคร เพิ่มเครื่องมือสื่อสารวิทยุ และเพิ่ม CCTV เพื่อป้องกันเหตุในอนาคต ในส่วนของกงสุลออสเตรเลียที่ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาตรวจสอบและดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แล้ว มีความพึงพอใจ และได้มีการประสานงานตลอดเวลาหลังเกิดเหตุในเรื่องนี้
นายสมบัติกล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันภูเก็ตมีประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูไม่ทัน ขอให้ทุกโรงแรมช่วยกันป้องกันตัวเองก่อน โดยมีเครื่องมือ CCTV รปภ. เพราะเรื่องที่เกิดกระทบภาพนักท่องเที่ยว และฝากไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ว่า นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพ พัทยา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าพักผู้เข้าพัก แต่ภูเก็ตต้องเสีย อยากให้ดูแลเป็นพิเศษ แม้ไม่ได้เกิดในโรงแรมแต่เป็นแขกของโรงแรม ถ้ามีอะไรที่ทางโรงแรมยังทำอะไรไม่ครบถ้วน จะทางโรงแรมยินดีปรับปรุงแก้ไข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น