เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.วินัย คงแก้ว รอง ผกก.สภ.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายเอกชัย หรือแม็ก คงเสธ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/85 ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต และนายจิตติพงษ์ หรือนัด บุญเรือง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 /1 ม.3 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
พล.ต.ต.โชติ กล่าวถึงการจับกุมคนร้ายดังกล่าว ว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ได้รับแจ้งจาก น.ส.ชุติมา โรจนสุวรพงศ์ เจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ หมายเลขทะเบียน กบ 7124 ว่า รถยนต์คันดังกล่าวซึ่งจอดไว้ที่โรงแรมเดอะทรี หมู่ที่ 5 ต.กมลา เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ได้หายไป และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางโรงแรมพบว่ามีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊กสีดำ-ส้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้า สภ.กมลาเร่งดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักทรัพย์รายอื่นๆ อีก
จากการติดตามสืบสวนหาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีชายไทยไม่ทราบชื่อใช้รถยนต์คันดังกล่าวซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับรถยนต์แจ๊สที่มีการแจ้งหายไว้ จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถจตุจักรพลาซ่า ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทางจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา จึงได้ออกไปตรวจสอบ พบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่จริง และมีชายไทยไม่ทราบชื่อนั่งอยู่ในรถจำนวน 2 คน จึงได้เข้าไปสอบถามจนทราบชื่อและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฏว่าหมายเลขทะเบียนกับใบเสียภาษีประจำปีไม่ตรงกัน สอบถามนายเอกชัย รับว่าเขาและนายจิตติพงษ์ได้ร่วมกันขโมยรถยนต์คันดังกล่าวมาจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกมลา ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.โชติ กล่าวด้วยว่า สำหรับนายเอกชัยหนึ่งในผู้ต้องหานั้นทำงานอยู่ในบาร์เกย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง เคยเดินทางไปที่โรงแรมดังกล่าวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงมีความคุ้นเคย ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปที่โรงแรมดังกล่าว เพื่องัดแงะเข้าไปยังห้องพักของโรงแรมดังกล่าวเพื่อขโมยทรัพย์สิน พบกุญแจรถคันดังกล่าวจึงได้ขับออกมา และผู้ต้องหาอีกคนขับรถจักรยานยนต์ตามออกมา จากนั้นก็ได้เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนและขับไปเที่ยวเตร่ตามสถานที่ต่างๆ แต่มีคนจำตำหนิของรถได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและจับกุมได้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น