เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง/แก้ปัญหา กรณีชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต คัดค้านการดำเนินโครงการถนนคนเดิน บริเวณถนนท้ายนา
โดยมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายสุวัฒน์ บุบผะโพธิ์ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายเสถียร เรือนแพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.กะรน นายมานพ ฉายเหลี่ยม ประธานคณะกรรมการโครงการถนนคนเดินถนนท้ายนา ตลอดจนตัวแทนผู้นำเสนอโครงการและผู้คัดค้านเข้าร่วม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายเสถียร เรือนแพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.กะรน ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบและชาวบ้านตำบลกะรน ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการที่จะจัดทำโครงการถนนคนเดิน (ถนนซอยท้ายนา) เพราะเป็นอุปสรรค์สำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้เส้นทางสายนี้ในการสัญจรไปมา เนื่องจากจะเป็นการปิดกั้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนปฎักและเส้นทางเข้า-ออกชายหาดกะตะ-กะรน
ซึ่งปัจจุบันก็มีปัญหาอยู่แล้ว กระทบต่อกลุ่มเรือเจ็ทสกีและเรือเร็วที่ต้องใช้เป็นเส้นทางในการนำเรือไป-กลับบ้านพักกับชายหาด หากมีการเจ็บป่วยฉุกเฉินก็จะเป็นปัญหาในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และปัญหากระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวก็ดับบ่อยอยู่แล้วรวมทั้งจะต้องมีการจัดให้ศึกษาผลกระทบต่อประชาชนในด้านต่างๆ ก่อนที่จะมีการดำเนินโครงการ
ขณะที่นายมานพ ฉายเหลี่ยม ประธานคณะกรรมการโครงการถนนคนเดินถนนท้ายนา กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการประกาศที่จะจัดทำโครงการดังกล่าวก็ได้เรียกประชุมและฟังความเห็นของผู้ประกอบการที่อยู่บริเวณถนนซอยท้ายนาแล้ว ซึ่งแนวคิดในการจัดนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายสินค้าของนักท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น และต้องการทำให้ถนนสายมีความคึกคัก และไม่ได้วางสินค้าบนถนน มีกำหนดปิดเปิดในช่วงเวลา 18.00 น.ถึง 23.00 น. โดยจะมีการทดลองจัด 3 เดือน ห้ามจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด ที่วางสินค้าจะเป็นล้อเลื่อนหรือสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย มีการจัดระบบจราจรกรณีรถฉุกเฉินที่ต้องการเข้าออก ดังนั้นการจัดโครงการดังกล่าวจึงเป็นมองประโยชน์เพื่อส่วนรวมในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างซบเซา
อย่างไรก็ตามนายสมเกียรติ กล่าวภายหลังการรับฟังความคิดเห็นจากทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ที่จะจัดทำโครงการและผู้คัดค้าน รวมถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ว่า ผู้ว่าฯ หรือนายกเทศมนตรีไม่มีอำนาจในการที่จะอนุญาตให้ใช้ถนนสาธารณะเพื่อหาผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งหากจะมีการจัดกิจกรรมก็จะต้องมองประโยชน์ของส่วนรวม หากจะมีการอนุญาตก็จะเป็นการผ่อนผัน แต่ทั้งนี้จะต้องไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ในกรณีของถนนซอยท้ายนา เนื่องจากมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงขอให้ทางเทศบาลตำบลกะรนเป็นคนกลางในการประสานงาน และจัดให้มีการแสดงความคิดเห็นเพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น