เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายพรชัย เหลียวพัฒนพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิด “ศูนย์ประนีประนอมข้อพิพาทในโรงเรียน จังหวัดภูเก็ต ประจำโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต” โดยมีคณะผู้บริหารโรงเรียน คณาจารย์ นักเรียนและคณะผู้ประนีประนอมประจำศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายปรีดี ธนปรีดากุล ผู้ประนีประนอมประจำศาลเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ตามที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินโครงการศูนย์ประนีประนอมข้อพิพาทในโรงเรียน จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนให้รู้จักการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการเจรจาพูดคุยหาทางออกของปัญหาร่วมกัน โดยนำรูปแบบการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทฯ ในศาลมาใช้เป็นแนวทาง
ซึ่งเป็นผลดีต่อสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 8 โรงเรียน และได้มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอมข้อพิพาทประจำโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต โรงเรียนเมืองถลาง โรงเรียนกะทู้วิทยา โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต และวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต
“นักเรียนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอมข้อพิพาทในโรงเรียน ซึ่งผ่านการอบรมแล้วจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท มีทักษะการเป็นผู้ประนีประนอมที่ดี มีคุณธรรมและจริยธรรม โดยมีครู อาจารย์ ทำหน้าที่ชี้แนะและให้คำปรึกษา ร่วมกับผู้ประนีประนอมประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ในการติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนาศูนย์ฯ และผลักดันให้ศูนย์ประนีประนอมข้อพิพาทในโรงเรียน ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสำนึกในความรักความสามัคคี อันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสงบสุขให้เกิดแก่ประเทศชาติ”นายปรีดีกล่าว
ทางด้านนายพรชัย เหลียวพัฒนพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเปิดศูนย์ฯ ดังกล่าวในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีจิตใจรู้จักการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ว่าหากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นนักเรียนก็สามารถที่จะไกล่เกลี่ยกันเองได้ เพื่อไม่ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และจะได้ไม่ต้องบานปลายออกไปข้างนอก ซึ่งการไกล่เกลี่ยสามารถทำได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่ง หรือคดีอาญา เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้วเพื่อนก็สามารถที่จะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีก
“ทางศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ได้มีการบรรยายให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับเรื่องการประนีประนอมข้อพิพาทไปแล้วทั้ง 8 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ และมีการเปิดศูนย์ประนีประนอมข้อพิพาทในโรงเรียนไปแล้ว 2 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 6 แห่งจะดำเนินการในเร็วๆ นี้ หากนักเรียนมีการไกล่เกลี่ยแล้วไม่สำเร็จสามารถที่จะปรึกษากับอาจารย์ได้ เพราะอาจารย์ส่วนหนึ่งก็ได้ผ่านการอบรมเกี่ยวกับการประนีประนอมข้อพิพาทจากศาลจังหวัดภูเก็ต
แต่หากจำเป็นจริงๆ ที่ต้องการขอความร่วมมือหรือความช่วยเหลือจากทางศาลเยาวชนและครอบครัว ทางศาล ก็ยินดีที่จะส่งชุดประนีประนอมประจำครอบครัวมาให้คำปรึกษา และยินดีให้ใช้สถานที่ของศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นที่ไกล่เกลี่ย” นายพรชัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น