จนท.รวบเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำกลางนคร

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.เสกสรร คมสาคร สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 พ.ต.ท.นิคม เทียนห้าว สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และ พ.ต.ต.รุ่งศักดิ์ ไม้จันทร์ดี สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม 

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายขจร จันทศรี อายุ 30 ปี และนายจำเริญ แสวงวิทย์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกสีฟ้าแบบซองยารวมทั้งสิ้นจำนวน 1,936 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 1.4 กรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า-ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายขจร มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้านในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ราคาแถวละ 1,800 บาท ( 1 แถวมี 10เม็ด) และได้เสนอขายให้กับทางสายลับจำนวน 3 แถว เป็นเงิน 5,400 บาท จึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อ และสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 66/102 หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต 

พร้อมด้วยของกลางเงินล่อซื้อ ยาบ้าจำนวน 400 เม็ด ลักษณะเม็ดกลมแบบสีส้ม มีอักษร wy บนเม็ดยาด้านหนึ่งเรียบ บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบซองยา ซุกซ่อนอยู่ในขวดพลาสติกผลิตภัณฑ์ขจัดคราบยี่ห้อหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะขนาดเล็กในห้องนอน และยาไอซ์น้ำหนัก 1.4 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระติกน้ำร้อนสแตนเลสวางอยู่ในห้องนอน โดยผู้ต้องหารับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตัวเองจริง 

โดยมีชายที่ชื่อ อาร์ม ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครโทรศัพท์ติดต่อมาและอ้างว่าเป็นนักโทษอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเสนอขายยาบ้าให้จำนวน 2 มัด (4,000 เม็ด) ราคา 540,000 บาท โดยให้เครดิตว่าสามารถโอนเงินไปได้หลังจากที่ขายหมดแล้ว เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็ให้ไปรับยาที่มีคนนำมาวางทิ้งไว้ข้างทางในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งยาบ้าส่วนหนึ่งได้ขายให้ลูกค้าไปแล้วก่อนที่จะถูกล่อซื้อและจับกุมดังกล่าว 

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 52/281 หมู่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต และจับกุมนายจำเริญขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าว ตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 1,536 เม็ด ลักษณะเม็ดกลมแบบสีส้ม มีอักษร wy ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเป่าผม จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้นำยาบ้าและยาไอซ์มาจากเอเย่นต์ที่มีเครือข่ายสั่งการจากนักโทษในเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป