เมื่อวันที่ 12 กุมพาพันธ์ 2557 ที่ห้องประชุม กศน.อำเภอเมืองภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีปิดโครงการอบรมแกนนำ นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองภูเก็ต ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา “เทิดไท้องค์ราชัน” ประจำปี 2557 โดยมี นายนิโอะ นิมุ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต ครู อาจารย์ และนักศึกษา เข้าร่วม
นายนิโอะ นิมุ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากรัฐบาล ตามแผนกลยุทธศาสตร์ทางแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด แผนงานที่ 3 การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหายาเสพติด โดยมีสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกัน และกิจกรรมป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติดในสถานศึกษาให้ครอบคลุมทุกสถานศึกษา โดยมีกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ คือ
สถานศึกษาต้องมีกลยุทธ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่สอดคล้องกับสภาพปัญหายาเสพติดและบริบทพื้นที่, สถานศึกษาต้องมีแผนงานยาเสพติดในสถานศึกษาที่ชัดเจน, สถานศึกษาต้องพัฒนาระบบงานรองรับยุทธศาสตร์ 4 ระบบ คือ ป้องกัน เฝ้าระวังดูแลช่วยเหลือ และบริหารจัดการ, สถานศึกษาต้องมีเครือข่ายการทำงานระหว่างครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ส่วน 2 ไม่ คือ สถานศึกษาไม่ปกปิดข้อมูล กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้ายา และไม่ผลักดันปัญหาไม่ไล่นักเรียนออกจากสถานศึกษา แต่ต้องนำไปบำบัดรักษาแล้วให้กลับมาเรียนใหม่ได้
ทั้งนี้โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ 229 คนแบ่งเป็นชาย 97 คน หญิง 132 คน และมีครูผู้ดูแล จำนวน 24 คน เพื่อให้นักศึกษารู้โทษภัยและอันตรายจากยาเสพติด เพื่อให้นักศึกษารู้วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากยาเสพติด และเพื่อให้นักศึกษาเป็นแกนนำในการต่อต้านยาเสพติดในสถานศึกษาต่อไป
ด้านนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวให้โอวาทและปรัชญาการดำรงตนให้เป็นคนดีต่อสังคมห่างไกลยาเสพติดแก่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการและยังได้แนะนำหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล และปราบปรามยาเสพติดให้ปฏิบัติหน้าที่ในการขจัดยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จริงจัง ยั่งยืน และไม่แผ่วเบา ในการปราบปรามยาเสพติด
อย่างไรก็ตามหลังจากการเข้าฝึกโครงการอบรมแกนนำ นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองภูเก็ต ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา “เทิดไท้องค์ราชัน” จากวันที่ 10 – 12 กุมพาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา จึงได้มีการตรวจปัสสาวะนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเพื่อตรวจหาสารเสพติด และหลังจากการตรวจหากพบว่านักเรียนคนใดที่ปัสสาวะมีสารยาเสพติดจะมีการเรียกให้เข้าพบต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เพื่อทำการสอบถามและบำบัดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น