เมื่อคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ (ป้อมยามสามแยกบางลา) ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พลตำรวจตรี อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดโครงการ “เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ” ต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดขึ้น
โดยมีนายสมชัย ใหม่จันทร์แดง รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นางสาววรรณประภา สุขสมบูรณ์ ผู้ช่วยผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โอกาสเดียวกันนี้ยังได้พบปะนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลข่าวสาร หรือขอความช่วยเหลือแนะนำช่องทางการให้ความช่วยเหลือ สร้างความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการนักท่องเที่ยว เสริมประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยว ด้วยการจัดแคมเปญ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ" Stand by you ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ที่จังหวัดภูเก็ต ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจะได้รับการดูแลตลอดการเดินทางในประเทศไทย
พลตำรวจตรีอภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวได้ปรับแผนกลยุทธ์การดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ ภายใต้แคมเปญ เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ Stand by you ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทดแทนพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยนักท่องเที่ยวได้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ากรุงเทพ เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกต่างชื่นชอบทะเลในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ นักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย สแกนดิเนเวีย ยุโรป เป็นต้น นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว โดยปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวมายังจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น วัดได้จากการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฉลี่ย 3,300 คน/วัน หรือเติบโตประมาณ 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"เหตุที่นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ ซึ่งมีการชุมนุมทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความกังวลใจเรื่องความปลอดภัยที่จะได้รับ และจังหวัดภูเก็ตเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีเที่ยวบินตรงเข้าพื้นที่จากหลายเส้นทางทั่วโลก ที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย Safety Zone ขึ้นในหลายพื้นที่
ซึ่งการจัดแคมเปญ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ” คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ปลอดภัย อุ่นใจ และมีความสุขตลอดการเดินทางในประเทศไทย เมื่อมีตำรวจท่องเที่ยวอยู่เคียงข้างพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยแคมเปญนี้ได้รณรงค์ให้คนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วย”
พลตำรวจตรีอภิชัย กล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งภายในงานได้นำรถให้บริการเคลื่อนที่ของตำรวจท่องเที่ยวมาจอดให้บริการตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อคอยให้บริการรับแจ้งความ ให้คำแนะนำด้านข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว ดูแลความสงบเรียบร้อย ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง เครื่องแฟกซ์ โทรศัพท์ คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Tourist Buddy” ผ่านสมาร์ทโฟน ให้เป็นคู่มือการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือร้องเรียน สอบถามเส้นทาง ขอความช่วยเหลือ ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1155 สร้างความอุ่นใจเหมือนมีตำรวจท่องเที่ยวอยู่ใกล้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้ครอบคลุมทุกมิติ อาทิ การเพิ่มล่ามแปลภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เป็นต้น รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น แลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเชื่อมโยงกัน (Caster) กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถเข้าดำเนินการได้ในทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย พลตำรวจตรีอภิชัย กล่าว
ขณะที่นายสมชัย ใหม่จันทร์แดง รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ปลายปี 2558 ภูเก็ตจะถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางทางการบินอีกแห่งหนึ่งของอาเซียน ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพักที่ภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น คาดว่าในปี 2558 นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติจะเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 15 ล้านคน
ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเล็งเห็นความสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทยในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติและชาวไทย เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งหมดควรร่วมใจกันสร้างภาพลักษณ์และการบริการที่ดี สร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น