เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายวีรสิฐ พุฒิไพโรจน์ ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการประกอบธุรกิจปางช้างของบริษัท สยามซาฟารี เน็ทเชอทัวร์ จำกัด บริเวณทางขึ้นเขานาคเกิด ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ซึ่งเป็นลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการตามยุทธศาสตร์การเกษตรของจังภูเก็ต เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีนายธนวันต์ ปจันทบุตร ผู้จัดการกลุ่มบริษัท สยามซาฟารี เน็ทเชอทัวร์ จำกัด, นายไอยุบ โตะยีวานิ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล และพนักงาน ให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวของปางช้างดังกล่าว เช่น แปลงสาธิตนาข้าว การสาธิตทำน้ำมันมะพร้าว การสาธิตกรีดยางพารา การแสดงของของช้าง เป็นต้น
นายไมตรี กล่าวภายหลังการรับฟังข้อมูลและเยี่ยมชมกิจกรรมภายในปางช้างดังกล่าว ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ได้ลงพื้นที่ดู การเลี้ยงแพะ การปลูกสับปะรด และการปลูกผักปลอดสารพิษ
ซึ่งการมาตรวจเยี่ยมปางช้างนั้น เนื่องจากช้างเป็นสัตว์สงวนที่เราต้องจำกัดจำนวน นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯพระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสนพระทัยและให้ความสำคัญโดยทรงตั้งสถาบันคชบาลขึ้นที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อดูแลรักษาอภิบาลช้างที่เจ็บป่วยโดยเฉพาะ ทั้งในในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีช้างรวมทั้งสิ้น 210 เชือก
“การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ได้มีการติดตามใน 3 ประเด็น คือ เรื่องเกี่ยวกับตัวช้าง พบว่าช้างที่นี่ได้รับการดูแลอย่างดีในด้านสุขภาพอนามัยโดยสัตวแพทย์ และมีพื้นที่เพียงพอในการรองรับช้างซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 17 เชือก เรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งพบว่ามีระบบนิเวศดี และไม่มีปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของมลภาวะ และเรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรืออีโกทัวริซึมของจังหวัดภูเก็ต นอกเหนือจากหาดทราบชายทะเลซึ่งเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว”
นายไมตรี ยังกล่าวด้วยว่า ได้ฝากให้ผู้ประกอบการช่วยดูแลรักษาป่าให้เป็นสมบัติของพื้นที่ให้อยู่กับป่าอย่างเกื้อกูลกัน และให้ดูแลช้างอย่างดี รวมทั้งฝากในเรื่องของการจัด CSR ร่วมกับชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ในขณะที่ทางผู้ประกอบการได้ฝากให้ช่วยดูแลในเรื่องของการเพิ่มปริมาณช้างในช่วงไฮซีซั่น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาก ทำให้ช้างต้องทำงานเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะกรณีการปรับเปลี่ยนช้างที่มีอายุมากให้ได้พักผ่อนและนำช้างใหม่มาทดแทนซึ่งยังอยู่ในจำนวนที่ได้รับการอนุมัติ โดยขอให้ลดขั้นตอนต่างๆ เพื่อความสะดวกในการนำช้างเข้ามา ซึ่งได้รับปากว่าจะไปหารือกับทางคณะกรรมการดูแลเรื่องของภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงปัญหาการเข้าไปรับนักท่องเที่ยวในโรงแรมบ่งแห่งที่ซื้อแพคเก็จเข้ามา
สำหรับบริษัท สยามซาฟารี เน็ทเชอทัวร์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นเขานาคเกิด เลขที่ 17/2 หมู่ที่ 10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ เปิดให้บริการธุรกิจท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างมากว่า 20 ปี ปัจจุบันมีพนักงานจำนวน 130 คน มีช้างจำนวน 17 เชือก โดยมีช้างอายุมากสุด 55 ปี และอายุน้อยสุด คือ 1 ปี แบ่งเป็นการบริการนำนักท่องเที่ยวนั่งชมธรรมชาติบนหลังช้าง การแสดงช้าง และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เช่น กรีดยาง ปลูกข้าว เป็นต้น
โดยช้างแต่ละเชือกจะทำงานประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อวัน และสูงสุดไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยแบ่งเป็นภาคเช้า และภาคบ่าย สำหรับอาหารของช้างนั้นร้อยละ 80 จะเป็นหน่อสับปะรด และร้อยละ 20 จะเป็นหญ้าสด หญ้าแห้ง ผลไม้ และอาหารเม็ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น