เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา โครงการ “สตรีไทย รู้ทันภัยสังคม” ซึ่งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น นำโดยนางณัฐพร ผาณิตพิเชษวงศ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต
โดยมีนางพิมพร ขอศานติวิชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบล 16 ตำบล สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ชมรมฯ สมาคมฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เข้าร่วม
ทั้งนี้นางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด กล่าวว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต ได้เล็งเห็นถึงปัญหาภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาภัยอันตรายที่เกิดกับสตรีที่มีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งสตรีส่วนใหญ่ไม่รู้เท่าทันถึงภัยอันตรายที่แฝงมาในรูปแบบต่าง ๆ จึงทำให้สตรีหรือบุคคลทั่วไปตกเป็นเหยื่อของภัยสังคม คณะกรรมการกองทุนฯ
จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อให้สตรีที่เข้ารับการสัมมนาได้นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดเพื่อลดปัญหาภัยสังคม นอกจากนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่กิจกรรมของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในจังหวัดภูเก็ตด้วย
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้มี พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ จากสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตและนายบัณฑูร ทองตัน อัยการเชี่ยวชาญพิเศษ เป็นผู้บรรยายให้ความรู้ พร้อมกันนี้ทางกลุ่มสตรีจากตำบลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ได้นำผลงานที่ทางกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ตให้การสนับสนุนมาจำหน่ายภายในงานด้วย
ทางด้านนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันสตรีมีบทบาทในการพัฒนาและขับเคลื่อนกิจกรรมในสังคมมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลและส่วนราชการต่าง ๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญบทบาทของสตรี จึงช่วยกระตุ้น สนับสนุน และส่งเสริมให้สตรีมีการรวมตัวกันทำกิจกรรมในชุมชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการบริหารจัดการชุมชนของตนเองมากขึ้น
ดังนั้นการจัดโครงการสตรีไทยรู้ทันภัยสังคม จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นที่ประจักษ์ และยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนกิจกรรมของสตรีได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น