เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.ปัญญา มาแม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต. วิศณุ ม่วงแพร่สี รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที, พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
ร่วมกันแถลงข่าวผลการสืบสวนจับกุมกรณีที่มีการนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาตะเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มใน จ.ภูเก็ต ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ MR. NACI JAWAD อายุ 32 ปี สัญชาติฝรั่งเศส พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 71 ใบ กัญชาแห้งจำนวน 9 ถุง น้ำหนักรวม 106.08 กรัม และกุญแจพร้อมคีย์การ์ด 1 ชุด โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถใต้อาคาร ART PATONG และห้องพัก หมายเลข 117 ชั้น 6 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 211/49 หมู่บ้านตะวันเพลส ถ.ศรีสุนทร ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง และใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำปลอมขึ้นแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริงที่ถูกตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น และการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับการประสานข้อมูลจากทีมสืบสวนสายงานป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัยของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ว่า พบมีคนร้ายตระเวนกดเงินอยู่ในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง
จึงได้เข้าทำการตรวจสอบตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายเคยก่อเหตุ จนทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านตะวันเพลส จึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม และสามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถใต้อาคาร ART PATONG และห้องพัก หมายเลข 117 ชั้น 6 จากนั้นได้นำตัวสอบสวน ก่อนตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาพบของกลางจำนวนมาก เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตามพล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ จากการสอบถามทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้า-ออกเมืองไทยมาเป็นเวลา 6 ปีแล้วและมีภรรยาเป็นคนไทย ซึ่งก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับการประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาขน) ว่ามีคนแอบใช้บัตรปลอมนำมาตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม
ทางชุดสืบสวนฯ จึงได้ออกติดตามหาข่าว จนะกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร และได้ทำการจับกุม เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ และจากการตรวจสอบพบว่าเบื้องต้นมีการนำบัตรเครดิตปลอมไปใช้กดเงินแล้วประมาณ 2-3 บัตร มีมูลค่ารวมประมาณกว่า 100,000 บาท ซึ่งข้อมูลบัตรที่ถูกนำมาใช้นั้นเป็นข้อมูลที่ขโมยมาจากต่างประเทศ
ซึ่งการดำเนินการในส่วนนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ของไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามผู้ที่นำบัตรเครดิตปลอมมาใช้ เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากถึง 85% หากเราสามารถสร้างความเชื่อมั่นในส่วนนี้ได้ก็จะทำให้มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมาเราได้มีการปราบปรามกลุ่มแก็งค์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันแก็งค์สลิมเมอร์ชาวมาแลเซียก็เริ่มหายไป ขณะนี้ที่มีการตรวจพบและมีการจับกุมได้อย่างต่อเนื่องจะเป็นกลุ่มยุโรป หรือยุโรปตะวันตก ดังนั้นจึงฝากเตือนไปยังประชาชนหากพบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมการใช้ตู้เอทีเอ็มผิดปกติก็ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมหากพบว่าทำผิด พล.ต.ท.ปัญญากล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น