จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หน.อุทยานทิ้งทวนลงพื้นที่แจ้งความเอาผิดผู้รุกหาดในทอน




เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติสิรินาถ (ในยาง) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ แถลงผลการปฏิบัติงานล่าสุดของโครงการตรวจสอบเอกสารสิทธิและปราบปรามการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ 


พร้อมกันนี้ยังได้นำชุดปฏิบัติการจำหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ภาคใต้ จำนวนรวมประมาณ 100 นาย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีกับ ร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าชายหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ทำข้อตกลงไว้กับอุทยานฯ 


โดยเฉพาะรายที่มีการก่อสร้างอาคารถาวร ซึ่งจะต้องรื้อถอนตามมาตรา 22 และมีการบุกรุกใหม่ ได้แก่ ร้านอาหารบ้านราตรี (Baan Ratree Restaurant), ร้านอาหารมาดาร์กัสการ์ ร้านอาหารคาเฟ่อาลาดิน (ร้านรัสเซีย) และร้านเยลโล่คาเฟ่ นอกจากนั้นยังได้มีการเข้าตรวจสอบที่ตั้งของ ร้านดำน้ำชาวต่างประเทศ คือ บริษัท Aqua Divers จำกัด และการบุกรุกปลูกยางพารา รวมถึงการก่อสร้างบังกะโลและถนนเพื่อรองรับการสร้างที่พักอาศัย โดยทุกจุดเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการบันทึกรายละเอียด เพื่อนำข้อมูลไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกแต่ละราย 


นายสมัคร กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานล่าสุดของโครงการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์และปราบปรามการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ คณะทำงานของอุทยานแห่งชาติสิรินาถเสนอให้มีการเพิกถอนแปลงโฉนดที่ดิน อีก 3 แปลง คือ โฉนดที่ดินเลขที่ 6435 ตำบลสาคู อำเภอถลาง เนื้อที่ 84 ไร่ 2 งาน 77 ตารางวา,โฉนดที่ดินเลขที่ 38112ตำบลสาคู อำเภอถลาง เนื้อที่ 34 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา,โฉนดที่ดินเลขที่ 38113 ตำบลสาคู อำเภอถลาง เนื้อที่ 51 ไร่ 94 ตารางวา นอกจากนี้เสนอให้มีการเพิกถอน ส.ค. 1 จำนวน 1 แปลง เลขที่ 224 หมู่ที่ 4 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง เนื้อที่ 16 ไร่ด้วย หรือรวมทั้งหมด 185 ไร่ 


“การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ วันนี้ (20 พ.ค.57) เจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำการบันทึกรายละเอียด และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทุกรายใหม่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ประกอบด้วย 1. บริเวณถนนทางขึ้นหลังโรงแรมร้าง หรือโรงแรมเพนนินซูล่า รีสอร์ทแอนด์สปา ภูเก็ต ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อเร็วๆ นี้ 2. บริเวณหาดในทอน ตำบลสาคู อำเภอถลาง 6 ราย ซึ่งเป็นการสร้างอาคารถาวรเป็นร้านอาหารบริเวณชายหาด กรณีรายเดิมมีการก่อสร้างไม่เป็นไปตามเงื่อนไข กับรายใหม่ที่ไม่มีในสารบบ และ 3.บริเวณตำบลเชิงทะเลอำเภอถลาง อีก 2 ราย” 


นายสมัคร กล่าวด้วยว่า นอกจากที่กล่าวแล้ว จะมีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับข้าราชการเจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนร่วมในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยจะแจ้งความเพิ่มจำนวน 11 ราย ในการพัวพันออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินหรือโฉนดที่ดินมากถึง 6 แปลง และข้าราชการเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีทั้งข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูง หรืออดีตผู้ว่าราชการจังหวัด, อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต,อดีตที่ดินอำเภอถลาง ,ผู้ปกครองท้องที่ หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีส่วนร่วม รังวัดชี้แนวเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เข้าไปเป็นโฉนด นอกจากนี้ ที่ดิน ที่มีปัญหา ส่วนใหญ่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขารวก-เขาเมืองด้วย 


อย่างไรก็ตามนายสมัคร กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่กรมฯ จะต้องดำเนินการให้ชัดเจนต่อไป แม้ว่าตนเอง จะต้องไปให้ปากคำกับศาลปกครอง เพราะมีนายทุนฟ้องร้องต่อศาลนี้ก็ตาม และการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่พัวพันการทุจริต ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินหรือโฉนด ความจริง สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันเดียว แต่ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ตำบลเชิงทะเลกลับไม่ดำเนินการใดๆ ดังนั้น กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะให้เวลาภายในสัปดาห์นี้เท่านั้น 


ขณะที่นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าว สำหรับปฏิบัติการในวันนี้ (20 พ.ค.57) ก่อนที่จะปฏิบัติการได้แจ้งให้นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานจัดระเบียบชายหาด ทั่วเกาะภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายจังหวัด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงโลว์ซีซั่นนี้ 


โดยในส่วนของร้านค้าที่จะมีการแจ้งความดำเนินคดีจำนวน 5 ราย นั้น พบว่า 3 รายเป็นร้านค้าที่อยู่ในรายชื่อที่มีการอนุญาตให้ทำกินได้หลังจากเกิดสึนามิซึงมีทั้งหมด 14 ราย แต่ 3 รายดังกล่าวไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งกำหนดใหม่มีเต็นท์เพียง 1 เต็นท์ แต่กลับไปสร้างอาคารถาวร และมีการตั้งโต๊ะบริการนักท่องเที่ยวเกินกว่าที่กำหนด ทราบว่าบางร้านมีการเซ้งกันถึง 7 ล้านบาท ส่วนอีก 2 ราย ไม่ปรากฏในรายชื่อที่อนุญาต และยังมีการแจ้งความดำเนินคดีกับร้านดำน้ำอีก 1 ร้าน ซึ่งสร้างในพื้นที่อุทยานด้วย 


เมื่อแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จะนำบันทึกแจ้งความาติดไว้ ที่ร้านค้าและ ร้านดำน้ำ ทั้งหมด เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะเข้าข่ายในมาตรา 22 ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ รื้อถอน และจะได้ที่สาธารณะชายหาดในทอนกลับคืนมาเกือบทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ได้รับการร้องเรียน จากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศทั้ง วาจา ลายลักษณ์อักษร และ อีเมล ว่า มีการบุกรุกหาดในทอน เป็นทัศนะอุจาดมาตลอด 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น