จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผู้ประกอบการหน้าหาดกะรนร้องผวจ.ภูเก็ต

ผู้ประกอบการหน้าหาดกะรนร้องผวจ.ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ที่บริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีกลุ่มผู้พ่อค้า-แม่ค้า แผงลอยบริเวณหาดกะตะ – กะรน จำนวน 50 ราย ได้มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐไปเรียกเก็บเงิน สร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มพ่อค้าเป็นอย่างมาก พร้อมพันนี้ยังได้มีการชูป้ายโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจข้อความต่างๆ อาทิ จ่าสมานพรหมหอม คือผู้กำกับฉลองคนใหม่ โจรไม่จับจับแต่พ่อค้าแม่ค้า, สนุกจังไล่จับพ่อค้าแม่ค้ากะตะกะรน ยาบ้ายาอีโจรเต็มเมืองทำไม่จับ, ผลประโยชน์ไม่ลงตัวความซวยมาลงที่เราผู้ประกอบการ กะตะกะรน, ค้ายาดีกว่าตำรวจไม่จับ, ส.ส.อัญชลี ช่วยด้วยพ่อค้าแม่ค้าโดนรังแก เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ควบคุมสถานการณ์อยู่โดยรอบ แต่เนื่องจาก นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ติดราชการ ทางนายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกมารับหนังสือร้องเรียนแทน
สำหรับโดยเนื้อหาในหนังสือร้องเรียนระบุว่า เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดขายบริเวณชายหาดกะตะกะรนอย่างปกติสุข โดยสินค้าที่จำหน่ายส่วนมากเป็นสินค้าที่จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น ของที่ระลึกพื้นเมือง เสื้อผ้า กระเป๋า แว่นตา เป็นต้น บางประเภทก็เป็นสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าปะปนอยู่ด้วย ซึ่งสินค้าเหล่านี้ก็สั่งซื้อมาจากกรุงเทพ และมีวางจำหน่ายโดยทั่วไปในย่านประตูน้ำ พาหุรัด สำเพ็ง เป็นต้น
ต่อมาเมื่อประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมาทาง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ให้ข่าวกับ นสพ.ท้องถิ่นว่าจะทำให้หาดกะตะกะรนเป็นพื้นที่สีขาว แล้วให้ตำรวจจากกหน่วยสืบจังหวัด ออกทำการจับกุมร้านค้าแถบชายหาดกะตะกะรนอย่างต่อเนื่องแทบไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งๆ ที่ร้านค้าลักษณะเดียวกันนี้เปิดขายอย่างมากกมายกระจายไปทั่วเกาะภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาดนัดใหญ่ๆ เช่นตาลดนาคา หรือ หาดป่าตอง ซึ่งมีจำนวนร้านค้ามากมายกว่าหาดกะรนกะรนหลายเท่าตัว การกระทำดังกล่าวของตำรวจทำให้ร้านค้าบริเวณหาดกะตะกะรนต้องปิดตัวเองเหมือนเมืองร้าง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและบรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง สร้างสงความเดือดร้อนแสนสาหัสแก่ผู้ประกอบการร้านค้าและครอบครัวหลายพันชีวิต ซึ่งล้วนเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ขณะที่โซนอื่นๆของภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นหาดป่าตอง ตลาดนาคา เขตเมืองภูเก็ต ล้วนแต่ขายสินค้าประเภทเดียวกันแต่ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตไม่ดำเนินการอะไรกลับเปิดขายได้ ทำให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำรู้สึกว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เสมอภาคและเป็นธรรม เป็นการเลือกปฏิบัติหรือเป็นการกลั่นแกล้งกันอย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้นทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ให้ตำรวจที่ชื่อ ดต.สมาน ออกเดินแจกจ่ายใบปลิวตามร้านค้าทั่วชายหาดกะตะกะรน ซึ่งเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าเป็นมือเป็นไม้ของกำนันตำบลกะรน ผู้ซึ่งสูญเสียผลประโยชน์จากการเรียกเก็บส่วยจากพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่มาแต่เดิม กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาดกะตะกะรนขอย้อนถามกลับไปว่าชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพสุจริต ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่เรียกว่าประเภทสีเทา สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศจริงหรือไม่และเอาอะไรมาเป็นตัววัด ตรงกันข้ามพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้เป็นผู้เสียภาษีรายได้หลักให้แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติจำนวนมหาศาลต่อปี ขณะที่สิ่งที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและเศรษฐกิจของประเทศและวัฒนธรรมของจังหวัดและประเทศ เช่น บ่อนการพนัน หวยเถื่อน บาร์เบียร์ โชว์ลามก ที่มีอย่างดาษดื่นทั่วเกาะภูเก็ตทั้งธุรกิจขายทัวร์เถื่อน ปัจจุบันครอบครองโดยนักธุรกิจต่างชาติชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นการแย่งอาชีพคนไทยอย่างชัดแจ้ง
นอกจากนี้ทางกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ยังได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตอีก 5 ข้อดังนี้ 1. ขอให้ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ปฏิบัติใช้กฎมายอย่างเสมอภาค ถ้าจะจับก็ต้องจับทุกเขตในจังหวัดภูเก็ต ไม่ใช่เลือกจับแต่พ่อค้าแม่ค้าในเขตตำบลกะรนเท่านั้น 2.ให้ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตและฝ่ายปกครองหยุดสนับสนุนกำนันวินัย ซึ่งเป็นกำนันตำบลกะรน ซึ่งมีพฤติการณ์ข่มขู่ เรียกเก็บส่วยจากพ่อค่าแม่ค้ามาโดยตลอด 3.ขอให้ผวจ.ภูเก็ต ย้าย ดต.สมาน ออกนอกเขตจังหวัดภูเก็ตในทันที 4.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งพักงาน หรือสั่งให้กำนันวินัย หยุดปฏิบัติหน้าที่กำนัน ต.กะรน ในทันที แล้วส่งเจ้าหน้าที่คนอื่นทำหน้าที่แทน 5.ให้ดำเนินการประสานงานโยกย้ายผบก.ภูเก็ตภายใน 24 ชั่วโมง
ด้านนายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวกับกลุ่มผู้ประท้วง ว่า หลังจากนี้จะได้นำหนังสือเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่ประสานบุคคลที่รายชื่อเพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม และผู้ที่ถูกร้องเรียนมาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย จากนั้นจะได้รายงานเพิ่มเติมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งดำเนินต่อไป จากนั้นทางกลุ่มผู้ก็ได้แยกย้ายกันกลับ
ขณะที่พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่มีการรวมตัวร้องเรียนของผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่หาดกะตะ-กะรน ว่า ในทางปฏิบัติเรื่องของการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นตนขอยืนยันไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมามีการจับกุมอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่เช่นในเขตพื้นที่หาดป่าตอง ในตัวเมือง ขาดกะตะ – กะรน และในการประชุมที่กองบัญชาการภาค 8 ทุกครั้งจะต้องมีการพูดคุยถึงเรื่องของการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง และก่อนที่จะมีการประกาศให้พื้นที่กะตะ-กะรนเป็นเขตปลอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นตนได้ทำหนังสือเวียนแจ้งให้ทราบแล้ว และหลังจากที่มีการดำเนินการที่กะตะ – กะรนแล้วจะขยายพื้นที่ไปดำเนินการในพื้นที่ป่าตองต่อไป ซึ่งการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นจะยังคงดำเนินการปราบปรามต่อไป ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการจ่ายส่วยให้กับทางเจ้าหน้าที่นั้นตนไม่เคยรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น