เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 ร.ต.ท.ประเสริฐ ศรีต้า รองสวป.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งจากชาวบ้านหาดในหาน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีกลุ่มชาวโรฮิงญาขึ้นฝั่งเนื่องจากเรือหมดน้ำมัน และคลื่นได้ซัดเรือแตกเกยตื้นอยู่ที่บริเวณชายหาดในหาน ม.1 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ขณะที่กลุ่มชาวโรฮิงญาที่โดยสารมากับเรือลำดังกล่าว ได้กระจายหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ขอให้ติดตามจับกุมดำเนินคดีด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ สวป.เจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดในหาน พบเรือไม้ขนาดความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 15 เมตร เกยตื้นอยู่ 1 ลำ สภาพส่วนกลางของเรือถูกคลื่นซัดแตกได้รับความเสียหาย จากการที่เจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบชาวโรฮิงญา ซึ่งอยู่สภาพร่างกายอิดโรย เนื่องจากความหิว กำลังเดินขออาหารจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวรับประทานเพื่อประทังชีวิต จึงได้เข้าควบคุมตัวได้ทั้งหมด 90 คน และนำไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.ฉลอง โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปร่วมตรวจสอบด้วย
จากการสอบสวนทราบว่า ชาวโรฮิงญาดังกล่าวได้เดินทางล่องเรือมาจากหมู่บ้านในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศบังคลาเทศ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวน 102 คน ด้วยเรือประมงขนาดเล็ก เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย เนื่องจากไม่ทราบเส้นทาง ทำให้หมดน้ำมัน และอาหารที่เตรียมไว้ก็หมดเช่นกัน ทำให้อดอาหารมาแล้ว 3 วัน จากนั้นได้ลอยเรืออยู่กลางฝั่งและถูกคลื่นซัดเข้าเกยชายหาดดังกล่าว
ในกลุ่มของผู้ที่หลบหนีไปนั้นมีเด็กอายุ 13 ปี ด้วยจำนวนสามคน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม โดยทาง สภ.ฉลอง จะส่งต่อผู้หลบหนีไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ และให้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ (กอ.รมน.) ประจำจังหวัดภูเก็ต ประสานไปยัง กอ.รมน.ส่วนแยก เพื่อนำส่งชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ไปยังศูนย์อพยพที่จังหวัดระนอง ซึ่งยังไม่สามารถส่งกลับประเทศพม่าได้ เนื่องจากประเทศพม่าไม่มีข้อตกลงในการรับชาวโรฮิงญาจากประเทศไทย เพราะถือว่าชาวโรฮิงญาไม่ใช่ชาวพม่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น