เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.)นำโดย พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผกก.ปทส. พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผกก.5 บก.ปทส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงภูเก็ต หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (กระบี่) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 67,68,69 และ 70 เข้าตรวจค้นสถานประกอบการปางช้าง 4 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย ปางช้างบริษัทลากูน่า เอ็กซ์เคอร์ชั่น จำกัด ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ปางช้างเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ปางช้างบริษัทสยามซาฟารี จำกัด ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และปางช้างบริษัทแอดชิลล์ แอดเวนเจอร์ทัวร์ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด และลงมือปฏิบัติการพร้อมกันทั้งหมด
พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผกก.5 บก.ปทส. กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการฆ่าช้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งทางการข่าวแจ้งว่า มีการนำอวัยวะช้าง ลูกช้างป่า มาขายและนำมาแสดงที่ จ.ภูเก็ต และตำรวจจาก บก.ปทส.ได้ทำการสืบสวนพบว่ามีการนำลูกช้างจำนวน 3 เชือก อายุประมาณ 1-2 ปี มาแสดงให้ชาวต่างชาติดูที่ปางช้างบริษัทลากูน่า เอ็กซ์เคอร์ชั่น จำกัด ปางช้างเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์และปางช้าภูไทยซูวิเนียร์ และตรวจสอบตั๋วรูปพรรณพบว่ามีสัญญาเช่ามาจากปางช้างไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจบุรี ต่อมาได้มีการตรวจสอบช้างที่ปางช้างไทรโยคจำนวน 51 เชือก ผลตรวจสอบพบว่า มีช้าง 19 เชือกไม่มีตั๋รูปพรรณที่ถูกต้อง จึงมีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าของปางช้าไทรโยคตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐาน ร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครอง(ช้าง)ไว้ในครอบครองโยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เหลืออัก 32 เชือกนั้นถูกต้องตามตั๋วรูปพรรณ จำนวน 22 เชือก และอีก 10 เชือกอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ส่วนของปางช้างใน จ.ภูเก็ตนั้นได้มีการมาตรววจแล้ว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 และได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษปางช้างบริษัทลากูน่า เอ็กซ์เคอร์ชั่น จำกัดและปางช้างเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในฐาน ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หวังรับไว้โยประการใดซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำผิด ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล และ สภ.ฉลอง ทั้งจะได้มีการตรวจยึดลูกช้างของปางช้างเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์ ชื่อพลายป๊อบอาย หรือป๊อบหรือฟลุ๊ค อายุ 1 ปีเศษ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นลูกของแม่พังแสนคำ กับพ่อพลายทองดี ซึ่งทางปางช้างได้เช่ามาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 – 23 สิงหาคม 2555 กับตรวจยึดลูกช้างของบริษัทลากูน่า เอ็กซ์เคอร์ชั่น จำกัด ชื่อพลายบุญหลายหรือโจอี้ เป็นลูกของแม่พังน้องแป้ง ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ที่ปางช้างไทรโยค โดยได้มีการเข้ามาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 โดยนำไปส่งไว้ที่ศูนย์คชบาล จ.ลำปาง
พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในการเข้ายึดลูกช้างที่ปางช้างเอทีวี ซีวิว ออนทัวร์ และการตรวจปางช้างบริษัทสยามซาฟารี จำกัด และปางช้างบริษัทแอดชิลล์ แอดเวนเจอร์ทัวร์ ได้มีการตรวจสอบที่ตั้งและที่ให้บริการของทั้งปางช้าง 3 แห่งด้วยว่ามีการบุกรุกป่าต้นน้ำลำธารหรือไม่อย่างไร เนื่องจากที่ตั้งของสถานกระอบการดังกล่าวอยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิด รวมทั้งในส่วนของช้างที่นำมาให้บริการในแต่ละปางก็ขอให้ผู้ประกอบการนำหลักฐานมายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายใน 15 วัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น