เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากปางช้างกินรี ตั้งอยู่เลขที่ 82/2 ม. 4 ถ.ปฏัก ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีช้างตกลูกหนึ่งเชือก เมื่อเวลาประมาณ 01.45 น. วันเดียวกันนี้ หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปยังปางช้างดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากวงเวียนห้าแยกฉลองไปทางกะตะ กะรน ประมาณ 500 เมตร เมื่อไปถึงปางช้างดังกล่าวพบนายจรุง เถาจันทร์ และนายไพเชต ข่มไพรี เจ้าของปางช้าง นางสมหมาย ศาลางาม อายุ 40 ปี กับนายน่าน อยู่ทอง ควาญช้างและผู้ดูแลช้าง พนักงานในปางช้าง ซึ่งในขณะนั้นยังมีนายจิรายุ นิรันดร์วิโรจน์ สัตว์แพทย์ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดภูเก็ต ทำการตรวจสุขภาพลูกช้างที่เกิดใหม่ รวมทั้งแนะนำวิธีการดูแลเนื่องจากแม่ช้างคือ พังแก้วตา อยู่ในอาการเครียดไม่ยอมให้ลูกช้างซึ่งตั้งชื่อว่า “พังสายฝน” เข้าใกล้ โดยแยกมาขังในคอกเล็กๆ ส่วนแม่ช้างได้ล่ามโซ่ไว้ เพราะเกรงจะทำอันตรายลูกช้าง ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาใช้บริการนั่งช้างชมธรรมชาติขอถ่ายภาพด้วยเป็นอย่างมาก
นายจรุง ว่า ลูกช้างดังกล่าวเกิดจากแม่ช้างชื่อ พังแก้วตา กับพ่อช้างพลายทองพูน ซึ่งได้ผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2553 รวมระยะเวลาตั้งครรภ์จนตกลูก 22 เดือน ซึ่งในช่วงที่พังแก้วตาตกลูกนั้นมีฝนตกอย่างหนัก และหลังจากที่ลูกช้างคลอดออกมาเรียบร้อยแล้วฝนก็หยุดตก จึงตั้งชื่อว่า พังสายฝน เพราะเป็นช่วงที่แม่ช้างตกลูก
“การตกลูกของพังแก้วตานั้นใช้เวลาไม่มากนัก โดยเริ่มมีอาการเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมาตกลูกช่วงประมาณ 01.45 น. ต่างจากช้างทั่วไปซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 วัน และแม่พังแก้วตาถือว่าเป็นช้างที่มีอายุน้อยที่สุดที่ตกลูกของจังหวัดภูเก็ตและอาจจะเป็นของประเทศไทยด้วย โดยลูกช้างพังสายฝน นับเป็นช้างเชือกที่ 2 ที่ตกลูกในปางแห่งนี้ เพราะก่อนนี้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2552 ได้มีลูกช้างเกิดใหม่ ชื่อ พลายปีใหม่ จากการผสมพันธุ์ระหว่างแม่พังหมิว กับพ่อพลายทองพูน”
นายจรุง กล่าวด้วยว่าลูกช้างตัวนี้มีลักษณะดีมาก โดยพิจารณาจากขาที่ยาว ใบหูใหญ่ หางตรงและปลายหางโค้งเข้าหาตัว นอกจากนี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เนื่องจากแม่ช้างไม่ให้ลูกช้างเข้าใกล้จึงต้องให้ควาญทำการรีดนมจากแม่ช้างใส่ขวดมาให้ดูดแทน และหากยังไม่ยอมให้ลูกช้างเข้าใกล้อีกก็จะทำคอกให้แม่ช้างอยู่เพื่อให้ลูกสามารถที่จะเข้าไปดูดนมเพื่อให้เกิดความใกล้ชิดกัน เพื่อป้องกันแม่ช้างทำร้ายลูกช้าง เบื้องต้นก็จะเลี้ยงดูลูกช้างไว้ในปางไปก่อน และจะหารือกับทางเจ้าของช้างว่าให้อยู่ตลอดไปได้หรือไม่ เนื่องจากแม่ช้างเช้ามาจาก จ.สุรินทร์โดยปัจจุบันปางกินรีมีช้างอยู่ทั้งหมด 19 เชือก หากรวมพังสายฝนไปด้วยจะเป็น 20 เชือก
ด้านนายจิรายุ นิรันดร์วิโรจน์ สัตว์แพทย์ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ลูกช้างผังสายฝนมีร่างกายที่แข็งแรงมาก คลอดง่าย มีน้ำหนักประมาณ 75 กิโลกรัม อัตราการเต้นของชีพจรดีมากอยู่ที่ 77ครั้งต่อนาที แต่เนื่องจากแม่ช้างยังอยู่ในอาการเครียดจึงได้ให้แยกลูกช้างออกมา จึงต้องให้ควาญช้างเข้ารีดนมจากแม่ช้างซึ่งเป็นนมน้ำเหลือง และในช่วง 3 วันแรก ถือว่าเป็นนมที่มีประโยชน์กับลูกช้างอย่างมาก หลังจากนี้ก็จะต้องพยายามให้ลูกเข้าไปใกล้ๆ แม่เพื่อให้มีความคุ้นเคยและยอมให้ลูกกินนม หากไม่สามารถทำได้ ก็จะต้องมีการจัดทำคอกให้กับแม่ช้าง และให้ลูกดูดนมซึ่งก็จะไม่เป็นอันตราย
อย่างไรก็ตามลูกช้างที่เกิดใหม่เชือกนี้ ถือว่าเป็นลูกช้างที่เกิดจากแม่ที่มีอายุน้อยที่สุด เพราะมีการผสมพันธุ์ตั้งแต่อายุ 8 ปี และมาตกลูกในช่วงอายุ 10 ปี เนื่องจากปกติช้างที่จะผสมพันธุ์ได้จะมีอายุประมาณ 10-11 ปี และนับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีลูกช้างตกใหม่ประมาณ 6 เชือกแล้ว กระจายไปตามปางช้างต่างๆ นายจิรายุกล่าว และยังกล่าวด้วยว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ก็ให้ทางเจ้าของไปแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กำนันในพื้นที่ และฝ่ายทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น