พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงการเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายในพื้นที่รับผิดชอบชายฝั่งทะเลอันดามัน ประกอบด้วยภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูลและระนอง ว่า ทางหน่วยเหนือได้สั่งการชัดเจน โดยเฉพาะทางทะเล ให้ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าไปกำกับดูแลและตรวจตราพื้นที่ทางทะเลมากขึ้น โดยจัดให้มีการตรวจเยี่ยมเรือต่างๆ ที่เข้ามาบริเวณตะเข็บชายแดน เช่น จ.ระนอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดหมู่เรือเพิ่มเติมและส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าไปกำกับดูแลหมู่เรือ ทั้งพื้นที่ตอนเหนือบริเวณ จ.ระนอง และพื้นที่ตอนล่างบริเวณ จ.สตูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิผลมากขึ้น
“ในทางการข่าวได้มีการประสานกับหน่วยข่าวกรองของหน่วยงานความความมั่นคงในทุกระดับ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่อ่อนไหว เพราะหากเกิดภัยคุกคามในลักษณะดังกล่าวขึ้นก็จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก”
พล.ร.ท.ธราธร กล่าวด้วยว่า ในการปฏิบัติงานนั้นได้มีการผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทางเรือ ซึ่งมีเรือรบลาดตระเวน กำลังทางบก หน่วยนาวิกโยธินหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลอันดามัน และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ประสานงานด้านการข่าว เพิ่มมาตรการตรวจลาดตระเวนอย่างเข้มข้นครอบคลุมทะเลอันดามัน โดยเฉพาะการเข้าออกตามตะเข็บชายแดน เขตรอยต่อในประเทศพม่า อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาก่อการร้ายในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการจัดลาดตระเวนทางอากาศร่วมกับเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศด้วย
ส่วนกรณีของเรือสำราญกีฬาหรือเรือยอช์ทที่เข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ตที่มีจำนวนค่อนข้างมากนั้น พล.ร.ท.ธราธร กล่าวว่า ในการผ่านเข้า-ออกเมืองนั้นก็จะมีกฎหมายควบคุมดูแลเรื่องของจุดผ่านแดนอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของภูเก็ตนั้นเรือที่เข้า-ออกก็จะต้องมีการแจ้งตรวจลงตราเข้าเมืองที่บริเวณอ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในลักษณะวันสต๊อบเซอร์วิส เช่น ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร เป็นต้น ส่วนกรณีที่อาจจะมีเรือบางลำที่ลักลอบหรือเล็ดลอดเข้ามานั้นก็มีความเป็นห่วงอยู่เช่นกัน ซึ่งก็ได้จัดกำลังตรวจตราและลาดตะเวนเพิ่มเติม ซึ่งมีการตรวจพบอยู่บ้างแต่ไม่มากนักส่วนใหญ่จะปฏิบัติถูกต้อง รวมทั้งการขอความร่วมมือจากส่วนราชการอื่นๆ ในการเพิ่มความเข้มการตรวจตราให้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น