เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2555 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีกลุ่มเครือข่ายสิทธิคนจนจังหวัดภูเก็ต กลุ่มเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง และกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (PMOVE) จำนวนกว่า 30 ชุมชน มีชาย-หญิง เด็กและคนชรา จำนวนประมาณ 300 คน พร้อมป้ายข้อความเรียกร้องต่างๆ รวมตัวกันเพื่อเดินทางไปยังอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร และเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง หลังจากได้ร่วมกันจัดรถแห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองภูเก็ต และมาหยุดพักผ่อนที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อพักรับประทานอาหารเที่ยง โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก
นอกจากนี้ยังได้มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อพูดคุยถึงการรวมกันดังกล่าว เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสิทธิทำกินและสาธารณูปโภคสาธารณูปการในชุทมชนต่างๆ ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินมาประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม นี้ โดยได้ข้อตกลงว่า จะมีการส่งตัวแทนประมาณ 5-7 คน ไปยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 มีนาคม 2555 ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือ กรอ.ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
ขณะที่ น.ส.ฒุฒิพร ทิพย์วงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า การรวมตัวกันนั้นไม่ได้ต้องการมาก่อกวนหรือสร้างความเดือดร้อนหรือป่วนการประชุม ครม.สัญจรแต่อย่างใด เพียงต้องการนำปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่แจ้งต่อผู้นำประเทศให้รับทราบ และหาหนทางแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมาช้านานอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมาเครือข่ายฯ ได้มีการจัดทำข้อมูลนำเสนอทั้งทางตรงและทางอ้อมในระดับพื้นที่ จนกระทั่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันมาโดยตลอด แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารก็จะมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการแก้ไขปัญหาทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อคณะกรรมการระดับจังหวัดไม่มีการดำเนินการต่อเนื่อง และเป็นการยื้อให้เวลาให้หมดไป จึงต้องการที่จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นร้องต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อรับทราบปัญหาและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจต่อไป
สำหรับปัญหาของชุมชนที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับพื้นที่และต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ไข ได้แก่ ให้รัฐบาลดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553 เรื่อง การประกาศพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษชาวเล เช่น ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน วัฒนธรรม, ให้เร่งรัดมีการออกโฉนดชุมชนในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งมีทั้งหมด 17 ชุมชน ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนได้ผ่านการเห็นชอบไปแล้ว 7 ชุมชน และขอให้เร่งดำเนินการในส่วนของชุมชนที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ, ขอให้ช่วยแก้ปัญหาของชุมชน 2-3 แห่งในภูเก็ต เช่น ชุมชนหลังสวนหลวง ร.9 ชุมชนโคกโตนด ชุมชนชาวเลราไวย์ เป็นต้น ซึ่งถูกนายทุนฟ้องดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดิน, ต้องการให้หน่วยงานของรัฐนำระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาเข้าไปยังชุมชนต่างๆ เพราะชาวบ้านต้องจ่ายค่าไฟฟ้าหน่วยละ 20-40 บาท รวมทั้งค่าน้ำประปาซึ่งบางครอบครัวต้องจ่ายรวมทั้งสองส่วนเดือนละ 3,000-4,000 บาท ขณะที่ชาวบ้านมีรายได้เพียงเล็กน้อย และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของ PMOVE ทั้งหมดด้วย
ขณะที่นายตรี กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตไม่ได้กีดกั้นเครือข่ายต่างๆ ที่ต้องการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่างๆ ต่อนายกรัฐมนตรี โดยได้ประสานไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อแจ้งปัญหาดังกล่าวแล้ว และนายกรัฐมนตรีจะเปิดโอกาสให้ตัวแทนเครือข่ายฯ ไม่เกิน 5-7 คน เข้าพบเพื่อชี้แจงปัญหาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต อ.กะทู้ สถานที่จัดประชุม ครม.สัญจร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น