นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากกรณีที่เครือข่ายต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และระนอง ได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสิทธิทำกิน และกรณีถูกนายทุนฟ้องร้องในข้อหาบุกรุกที่ดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทางจังหวัดเข้าไปดูแลจัดหาทนายช่วยเหลือชุมชนที่ถูกนายทุนฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดิน ซึ่งเบื้องต้นมี 3 ชุมชน คือ ชุมชนหลังสวนหลวง ร.9 ชุมชนโคกโตนด และชุมชนชาวเลราไวย์ รวมถึงการเข้าไปให้ช่วยเหลือในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ด้วย ซึ่งจะเข้าไปดำเนินการขับเคลื่อนต่อจากนี้ไป
นายตรี กล่าวด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณที่ทางจังหวัดภูเก็ต ได้เสนอขอรับการสนับสนุนในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ ในวงเงิน 100 ล้านบาท คาดว่าที่จะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน มีด้วยกัน 4 โครงการ คือ โครงการแก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ จ.ภูเก็ต งบประมาณ 25 ล้านบาท โครงการระบบท่อส่งน้ำจากโรงกรองน้ำบ้านบางโจ ไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต งบประมาณ 49 ล้านบาทเศษ โครงการควบคุมระบบการจราจรทางน้ำ งบประมาณ 20 ล้านบาท และโครงการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานบ้านพระยาวิชิตสงคราม งบประมาณ 9 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตามนอกจากโครงการดังกล่าวแล้วยังมีโครงการที่ขอรับการยกเว้นมติ ครม. เพื่อขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน ก่อสร้างถนนสายหลักด้านใต้ (คลองเกาะผี) ระยะทาง 600 เมตร รวมถึงยังได้มีการนำเสนอโครงการเพื่อขอรับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี อีกจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบเกาะภูเก็ตและเส้นทางสนามบิน งบประมาณ 25,000 ล้านบาท โครงการอุโมงค์ลอดป่าตอง 5,500 ล้านบาทเศษ และโครงการภูเก็ตเขียว 175 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น