จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชุดสืบภ.จว.ภูเก็ต รวบอดีตแม่บ้านต่างด้าวจอมแสบ



เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิตร รองผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.ต.วีระพงศ์ รักขิโต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางสาววันดี สัญชาติพม่า อายุ 37 ปี พร้อมด้วยของกลาง สร้อยข้อเมือเพชร จำนวน 1 เส้น, ต่างหูเพชร จำนวน 3 คู่, พระเครื่องเลี่ยมทอง จำนวน 5 องค์, นาฬิกา จำนวน 3 เรือน, ต่างหูพลอย จำนวน 2 คู่, แหวนเพชร จำนวน 2 วง, แหวนทองคำ 1 สลึง จำนวน 1 วง, เงินสด จำนวน 392,800 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อเงินจำนวน 253,500 บาท เป็นเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สิน


นอกจากนี้ยังมีของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่ไปไถ่ถอนคืน โดยทรัพย์สินที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ไถ่ถอนคืนประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น, สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น และสร้อยคอเพชรจำนวน 1 เส้น โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักหมายเลข 666 เกรสเฮาส์ 241/23 ซ.ป่าตองวิสกี้ ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.กะทู้ ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือรับของโจร 


ทั้งนี้พ.ต.ท.เสริม ได้กล่าวว่า สำการจับคุมคนร้ายในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากนางยุภา ไวยสิทธ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ซ.นาใน 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ว่าได้มีคนร้ายเข้ามาทำการโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านพัก โดยมีทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปจำนวนหลายรายการ ซึ่งคนร้ายน่าจะเป็นอดีตลูกจ้างชาวพม่า หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ เพื่อสอบถามถึงตำหนิรูปพรรณของคนร้าย เมื่อได้ตำหนิรูปพรรณ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ โดยการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายรายนี้ได้พักอยู่ที่เกสรเฮาส์แห่งหนึ่งในถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกติดตามตัวจนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาทราบชื่อนางสาววันดี สัญชาติพม่า อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นอดีตแม่บ้านของผู้เสียหาย 


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าควบคุมตัว พร้อมทั้งได้ทำการสอบสวน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านหลังดังกล่าวจริง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางสาววันดี เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่พบของกลางจำนวนหลายรายการซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลอยู่ภายในห้องพัก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อผู้เสียหายให้เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจค้นได้ภายในห้องพัก แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางมาถึงก็พบว่า ได้มีทรัพย์สินหลายรายการได้หายไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามผู้ต้องก็ทราบว่า ได้มีการนำทรัพย์จำนวนหนึ่งไปขายให้กับร้านทองในตัวเมืองภูเก็ต ได้เงินมาจำนวนทั้งสิ้น 253,500 บาท 


เมื่อทราบเช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยผู้เสียหาย ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังร้านทองที่ผู้ต้องหานำทองไปขาย เพื่อทางผู้เสียหายจะได้ซื้อทรัพย์สินที่ผู้ต้องหานำไปขายคืนมา ทั้งที่ร้านในในพื้นที่ป่าตอง และพื้นที่เมืองภูเก็ต 


ด้านนางยุภา ไวยสิทธ์ ได้กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องรายนี้เคยเป็นแม่บ้านอยู่ภายในบ้าน และสามารถเข้าออกภายในบ้านได้ และทราบว่าในเวลาปกติ บ้านพักจะไม่มีการล๊อคประตูหน้าบ้าน และผู้ต้องหาก็ได้ลาออกไปประมาณ 2 สัปดาห์ โดยแจ้งว่าจะเดินทางกลับบ้าน ตนจึงไม่เฉลียวใจ และในวันเกิดเหตุ ตนก็ได้ออกจากบ้านพัก เพื่อไปขายของอีกบ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน โดยที่ประตูบ้านพักก็ไม่ได้ล๊อคประตูแต่อย่างไร เนื่องจากมีคนเข้าอยู่บ่อย 


ส่วนคนร้ายที่เข้ามาลักทรัพย์ในครั้งนี้ น่าจะปีนกำแพงหลังบ้านเข้ามา แล้วเข้าไปภายในบ้านขโมยทรัพย์สิน ไป เพราะหากใครเข้า-ออกทางหน้าบ้านก็จะทราบ และไม่คิดว่าคนร้ายจะเป็นคนที่เคยทำงานอยู่ในบ้านด้วย ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายลักไปนั้น เป็นทรัพย์สินที่ได้จากค่าเช่าบ้าน และค้าขาย จากนั้นก็ได้นำไปซื้อเป็นเครื่องประดับต่างๆ แล้วนำมาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า โดยไม่คิดว่าจะมีคนร้ายเข้าลักขโมยได้ จึงไม่ได้เก็บไว้ในที่มิดชิดหรือตู้เซฟแต่อย่างไร 


ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอฝากถึงนายจ้างของแรงงานต่างด้าวทุกท่าน ว่า ในการรับตัวลูกจ้างเข้ามาทำงานในบริษัท ในร้านค้า หรือในบ้านก็ตาม จะเป็นแรงงานคนไทย หรือแรงงานต่างด้าวก็ตาม ขอให้ทางนายจ้างได้เก็บเอาสำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือใบอนุญาตให้ทำงาน พร้อมทั้งรูปถ่ายหน้าตรงของลูกจ้างเหล่านั้นไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมา ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้มีข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น