เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2555 ที่ห้องรับรองพิเศษ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับนายเจมส์ วาลว์ ( H.E. Mr. James Joseph Wise) เอกอัครราชทูตประเทศออสเตรเลียประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสที่เข้าเยี่ยมคารวะและพบปะหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
นายเจมส์ วาลว์ เอกอัคราชทูตประเทศออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียถูกชิงทรัพย์และถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต ว่า ขอแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างสะเทือนขวัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ตเอง และผู้ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าในภูเก็ตยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอยู่ประจำ ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊กๆ หรือเจ๊ทสกี ซึ่งปัญหาบางอย่างทางจังหวัดไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เอง และจะต้องอาศัยการสนับสนุนจากส่วนกลาง ทั้งนี้ในเดือนกรกฎาคมนี้ทางเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ จะมีการประชุมหารือร่วมกับรัฐบาล เพื่อหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่นางสาวสมหมาย กล่าวภายหลังการหารือกับนายเจมส์ วาลว์ เอกอัคราชทูตประเทศออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ว่า การเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตของเอกอัครราชทูตนั้น เพื่อมอบรางวัลให้กับโรงแรมเดอะ ชวารีสอร์ท (หาดสุรินทร์) ซึ่งได้รับรางวัลสถานที่พักผ่อนของครอบครัว นอกจากนี้ยังได้มีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียจนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย พร้อมทั้งได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เช่น กรณีรถแท็กซี่ก็แนะนำว่าให้มีการติดตั้งเป็นแท็กซี่มิเตอร์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการถูกเอาเปรียบเรื่องค่าโดยสาร ส่วนปัญหาเจ็ทสกีได้ชี้แจงว่า ขณะมีขึ้นทะเบียนไว้ 286 ลำ และได้มีการกำหนดให้ทำประกันทุกลำ ซึ่งทางท่านทูตฯ ก็แนะนำว่า ควรใช้การประกันให้เกิดผล โดยเฉพาะกรณีที่เจ็ทสกีได้รับความเสียหายจากการใช้บริการก็ให้ใช้ระบบประกัน
นอกจากนี้ท่านทูตฯ ได้ขอให้ทางจังหวัดภูเก็ตมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะตำรวจในการตั้งจุดสกัด กรณีการตรวจพบอาวุธในรถจักรยานยนต์หรือรถตุ๊กตุ๊ก ไม่ควรที่จะริบไปเฉยๆ แต่จะต้องจับและยึดรถ รวมถึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง เพราะหากเพียงริบอาวุธแล้วปล่อยตัวไปก็ไม่เกิดผลอะไร
นางสาวสมหมาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ท่านทูตฯ จะไปช่วยผลักดันทางส่วนกลางผ่านทางสถานทูตไปยังรัฐบาลไทย เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังตำรวจที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตามท่านทูตฯ ยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์และฆ่านักท่องเที่ยวออสเตรเลียได้ในเวลาอันรวดเร็ว และบอกว่าไม่อยากให้เกิดปัญหานี้อีก โดยขอให้ช่วยแก้ปัญหาด้วยการบังคับใช้กฎหมายให้ชัดเจนและเข้มงวด ซึ่งท่านทูตฯ ยังบอกว่าภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียต้องการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวมากเป็นลำดับต้นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น