เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์, พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน, พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เรียกเชิญ ผกก.แต่ละสภ. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภว.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวนสภ.ฉลอง เพื่อมาสอบถามความคืบหน้าของการติดตามคนร้าย ที่ได้ใช้อาวุธมีดแทงนางสาวสมิทธ มิเชล อลิชซาเบท (Smith Michelle Elizabeth) อายุ 60 ปี เสียชีวิต
และนางสาวลินนี่ แทมมี่ ลี (Lynin Tammee Lee) อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดยก่อนการประชุมพล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุมและสื่อมวลชนว่า จากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช้อยู่ในความรับผิดชอบเฉพาะเจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจภูธรฉลองเพียงแห่งเดียว แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งจังหวัด และรวมถึงตำรวจภูธรภาค 8 ในการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้มาให้ได้
สำหรับในส่วนของความคืบหน้า ขณะนี้ทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้ให้พยานที่เห็นตัวคนร้าย มาทำการ สเก็ตซ์คนร้าย จากนั้นก็ได้ไปขอออกหมายจับคนร้ายที่ลงมือใช้อาวุธมีดแทงนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้จากการสอบพยานเพิ่มเติมทำให้ ได้ตำหนิรูปพรรณพอคร่าวๆ ของคนร้ายที่ใช้อาวุธมีดแทงนักท่องเที่ยว เป็นชายไทยอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 ปี ความสูงประมาณ 175 – 180 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความสูงที่เกินมาตรฐานคนไทยโดยทั่วไป
โดยหมายจับเป็นการออกหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ จ.332/2555 ลงวันที่ 23 มิ.ย.2555 เป็นการออกหมายตามตำหนิรูปพรรณสัณฐานตามภาพสเก็ตซ์และตามคำให้การของพยาน ซึ่งบุคคลที่ถูกออกหมายจับครั้งนี้ เป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบนามสกุล ไม่ทราบถิ่นที่อยู่ อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวดำ-แดง สูงประมาณ 175-180 เซนติเมตร ซึ่งกระทำฐานความผิด “ข้อหาร่วมกันพยามยามชิงทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธโดยการใช้พาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควรและร่วมกันฆ่าผู้อื่น”
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการออกหมายจับตอนนี้ตนได้ให้ฝ่ายสืบสวนของ สภ.ฉลอง ทำแผ่นพับตำหนิรูปพรรณคนร้าย – ภาพสเก็ตซ์ แจกให้กับตำรวจสายตรวจ จราจร ธุรการ ทุกสถานี ให้ไปช่วยดูว่ามีใครรู้จักคนร้ายตามตำหนิรูปพรรณที่ได้แจกไป ซึ่งคนร้ายรายนี้มีลักษณะเด่นที่ความสูง เป็นคนร้ายที่มีความสูงกว่าชายไทยทั่วไป ลักษณะความสูงเทียบเท่าฝรั่งต่างชาติ รวมถึงนำไปแจกให้กับอาสาสมัครตำรวจบ้าน อาสมัครรักษาดินแดน(อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายผลเรือน (อปพร.) ให้เอาแผ่นพับไปแจกจ่ายให้กับคนในชุมชน หากใครรู้จักก็สามารถโทรศัพท์แจ้งมาได้ที่ตนโดยตรง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-8419559 หรือที่สายด่วนรับแจ้งเหตุ 191 ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะหน้าที่ของตำรวจเราต้องแสวงหาความร่วมมือประชาชน และประสานไปยังผวจ.ให้เพื่อประสานความร่วมมือเพื่อแก้ภาพลักษณ์ของจังหวัดหรือของประเทศให้กลับมาเหมือนเดิมได้โดยเร็ว
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ยังกล่าวอีกว่า หลังมีการตั้งรางวัลนำจับคนร้ายทั้ง 2 คน เป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท ขณะนี้มีคนแจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วหลายราย เราก็พยายามคัดกรองในส่วนของกลุ่มผู้ต้องสงสัยต่างๆ มีการที่มีการแจ้งเข้ามา ซึ่งข่าวที่แจ้งเข้ามาจากคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่มีความชัดเจนอยู่มากคือมีคนเห็นว่าบุคคลตามภาพสเก็ตซ์เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารแห่งหนึ่งในต.กะรน จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบข้อมูล ซึ่งทุกสายโทรศัพท์ที่แจ้งมาเราก็ให้ความสำคัญทุกสาย แต่ต้องสกรีนของความน่าจะเป็นด้วย โดยเชื่อว่าความความร่วมมือของทุกคนไม่ใช่เพียงแค่ตำรวจ จะสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แน่นอน ซึ่งตนจะเรียกประชุมตำรวจระดับหัวหน้าสถานี สารวัตรสืบสวนทุกสถานที ในทุกวัน ซึ่งดูว่าการบ้านหรืองานที่ให้ไปทำให้ไปเช็คข้อมูลนั้นมีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว ก็ทำหน้าที่เหมือนครูอีกหน้าที่หนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับแนวทางการสอบสวนคลี่คลายในคดีนี้นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายชุดทั้งกองปราบปราม ชุดสืบสวนภูธรภาค 8 ชุดสืบสวน ภจว.ภูเก็ต ชุดสืบสวนของทุกสภ.ในจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยในพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 100 นาย ได้ระดมกำลังกระจายลงพื้นที่หาข่าวในพื้นที่อย่างกระชั้นชิด ซึ่งทีมระดมค้นหาคนร้ายได้แบ่งกันออกเป็น 4 ชุด ทั้งชุดติดตามเส้นทางการหลบหนีที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี ชุดติดตามกล้องซีซีทีวี ชุดติดตามรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮ้อนด้า รุ่นดรีม สีทึบเป็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย และชุดเกาะติดพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายใช้กบดาน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอกะทู้ และอำเภอเมือง ซึ่งทุกหน่วยทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เมื่อหน่วยใดได้ข้อมูลกลุ่มต้องสงสัยหรือความคืบหน้าของคดี จะรายงานที่ศูนย์บัญชาการติดตามคดีนี้ที่ ภ.จว.ภูเก็ต โดยมี พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.เป็นประธานศูนย์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
โดยขณะนี้หลังจากที่มีการออกหมายจับและมีการสเก็ตซ์ภาพคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพสเก็ตซ์ พร้อมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ออกไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันแจ้งเบาะแสคนร้าย หลังจากที่มีการตั้งรางวัลนำจับ 3แสนบาท มีประชาชนแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปสอบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยซึ่งใน อ.กะทู้ ซึ่งเป็นแก็งค์วิ่งราวที่มีพฤติกรรรมใช้อาวุธทำร้ายเหยื่อ แต่พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะสมาชิกในแก็งค์นี้จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 15 – 18 ปี จึงปล่อยตัวไป นอกนั้นมีการตั้งด่านสกัดตรวจสอบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่ขับรถจักรยานยนต์ในลักษณะที่ใช้ก่อเหตุอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น