จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กระตุ้นเยาวชนพร้อมรับประชาคมอาเซียน



เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 ที่ห้องประชุม โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายทองดี มนิสสาร ส.ส.อุดรธานี รองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง เตรียมความพร้อมประเทศไทย เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร จัดขึ้น
เพื่อให้ความรู้และกระตุ้นความพร้อมในการรับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ และนักศึกษาจาก กศน. อ.เมืองภูเก็ต

โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ตในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการแรงงานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามศึกษาเชิงนโยบายและกฎหมายแรงงาน นายณชัย เขมนิพัทธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ คณะครูอาจารย์ ตลอดจนคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าส่วนในสังกัดกระทรวงแรงงานใน จ.ภูเก็ต เข้าร่วม

นายเรวัต กล่าวถึงการจัดสัมมนาว่า ด้วยในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มของนักเรียนนักศึกษาซึ่งจะต้องมีการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะด้านการสื่อสารซึ่งจะต้องมีการใช้ภาษาที่ 2 และภาษาอาเซียน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องใช้ในการแข่งขัน แม้ว่าจังหวัดภูเก็ตจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่จำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นให้มีความพร้อมในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ต่อไป นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการจัดสัมมนาในลักษระเดียวกันที่โรงเรียนกะทู้วิทยาและโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยด้วย

ขณะที่นายทองดี มนิสสาร ส.ส.อุดรธานี รองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปี 2558 กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ จะรวมกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะมีการเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีระหว่างกัน มีการขยายโอกาสด้านการลงทุนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้การเดินทางติดต่อระหว่างประเทศจากการเพิ่มเส้นทางคมนาคมก็มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย การจัดสัมมนาในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีในการเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ

ในการเตรียมความพร้อมทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันบูรณาการความร่วมมือและวางแผนงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งอยากจะฝากไว้ว่านอกจากการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานของแต่ละประเทศอาเซียนแล้ว การศึกษาเรียนรู้ภาษาสากล โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเด็กไทยมีปัญหาและไม่สามารถใช้สื่อสารได้มากนัก ซึ่งในอนาคตจะต้องเพิ่มในส่วนของภาษาอาเซียนด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่เพียงพอในการแข่งขันกับนานาชาติ รวมทั้งการเรียนรู้และพัฒนาด้านไอทีให้มีความเชี่ยวชาญทันกับโลกยุคโลกาภิวัตน์
 

ซึ่งหากเรามีศักยภาพที่หลากหลายจะทำให้เกิดความได้เปรียบในด้านการทำงานและการแข่งขันในตลาดแรงงานในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ขอให้นักเรียนและนักศึกษาได้มีการเรียนรู้ ไฝ่รู้ไฝ่เรียน เพื่ออนาคตของเราเอง และต้องฝากอนาคตไว้กับลูกหลานทุกคน โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งถือเป็นฐานเศรษฐกิจของประเทศ และประเทศไทยก็ต้องอาศัยเศรษฐกิจส่วนหนึ่งของภูเก็ตในการจุนเจือช่วยเหลือเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย นายทองดีกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น