เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร สารวัตรเวรสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนหลวงพ่อ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เฮ่งฉ้วน สว.สส. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง สารวัตรวิทยาการจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว บริเวณชั้น 2 ห้อง 207 พบประตูปิดล็อคอยู่ เจ้าหน้าที่พยามยามเคาะประตูเพื่อเรียกบุคคลที่อยู่ด้านใน ให้เปิดประตู แต่ไม่มีใครเปิด เจ้าหน้าที่จึงนำชะแลงขนาดใหญ่มางัดประตูห้องดังกล่าว ก่อนกระโดดถีบประตู จนประตูเปิดออกมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าวเป็นที่นอนแบบเตียงเดียว พบแอร์เปิดอยู่
ที่บริเวณพื้นข้างเตียงพบศพ พ.ต.ท.โชคชัย จารุจารี อายุ 59 ปี อดีตรองผกก.ป.สภ.สุขสำราญ จ.ระนอง สภาพศพนอนตะแคงหันหน้าไปทางด้านขวามือ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนสีดำเพียงตัวเดียว ตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าวมีอาเจียนเปื้อนเลือดอยู่หลายกอง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาและประมาณ 5 วัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงมาตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญผ-280 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.ท.โชคชัย ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงแรม พบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ลูกกระสุนจำนวน13 นัดนาฬิกาข้อมือ 2 เรือน สำเนาล๊อตเตอร์รี่งวดประจำวันที่ 16 มี.ค.2551 หมายเลข 074946 ซึ่งเป็นเลขรางวัลที่ตรงกับเลขรางวัลที่ 1 ที่ พ.ต.ท.โชคชัย ถ่ายเก็บไว้ 1 แผ่น พระ - ตระกรุดของขลังและเอกสารอื่นๆอีกมากมาย เจ้าหน้าที่นำรถยนต์คันดังกล่าวและทรัพย์สินเก็บไว้ที่สภ.เมืองภูเก็ต ก่อนจึงนำศพชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า พ.ต.ท.โชคชัย จารุจารี ดำรงตำแหน่งรองผกก.ป.สภ.สุขสำราญ ก่อนจะเออร์รีไทน์ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาขณะนี้ทำธุรกิจโรงแรมอยู่ในพื้นที่ตำบลกมลา และบริเวณเกาะยาว จ.พังงา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางเข้ามาพักที่โรงแรมดังกล่าวเมื่อเวลา 18.00น. ของวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ตายจะเดินทางมาพักที่โรงแรมดังกล่าวเป็นประจำนับแรมปี จนกระทั่งสนิทกับพนักงานเสิร์ฟ พนักงานรีเซฟชั่นทุกคน จากนั้นวันที่ 12 ก.ค. เวลา 15.30 น. ผู้ตายได้เดินทางออกไปทำธุระนอกโรงแรม ก่อนเดินทางกลับมาอีกครั้งในวันที่ 13 ก.ค.เวลา 02.00 น. จากนั้นก็ไม่มีใครเห็นผู้ตายอีกเลย
จนกระทั่งวันนี้แขกที่มาพักที่โรงแรมและพักอยู่ติดกับห้องผู้ตายได้กลิ่นเหม็นเหมือนศพโชยออกมาจากห้องดังกล่าว พนักงานของโรงแรมจึงเดินทางไปเรียกเคาะประตูห้อง แต่ไม่มีใครตอบ จึงได้ใช้กุญแจไขเข้าไปดู แต่ปรากฏว่าไขเข้าไปด้านในไม่ได้ เพราะผู้ตายได้ล๊อคกลอนประตูด้านในไว้ พนักงานโรงแรมจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และงัดประตูเข้าไปด้านใน พบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นโรคประจำตัวเนื่องจากอาเจียนออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก จึงทำให้เสียชีวิตอย่างน่าอนาถดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะได้สอบสวนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น