เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2554 ศาลเจ้าแสงธรรม (อ๊ามเต่งก่องต๋อง) บนถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานกรรมการศาลเจ้าแสงธรรม ได้ประกอบพิธีลงเสาเอกอาคารเอนกประสงค์ของศาลเจ้า โดยมีนายธีระ เจี่ยสกุล เลขานุการสภา อบจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย คณะกรรมการศาลเจ้าแสงธรรม ศิษย์องค์พระอ๋องสุ้นต่ายส่าย และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมในพิธี
ทั้งนี้นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ขณะที่เมืองภูเก็ตกำลังเจริญ ศาลเจ้าแสงธรรมได้ถูกปิดร้าง และหาทางเข้าศาลเจ้าได้ยาก ทางคณะกรรมการศาลเจ้าฯ จึงมีความคิดว่า ควรจะมีการบูรณะศาลเจ้าขึ้นมา เพื่อสร้างศรัทธาให้ผู้คนได้มากราบไหว้ โดยได้รับความกรุณาจากหลายท่านในการบริจาคที่ดิน ทำให้สามารถเดินทางเข้ามายังศาลเจ้าได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับการลงเสาเอกก่อตั้งสำนักงานศาลเจ้าแสงธรรมในวันนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพื่อรองรับผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่มาร่วมบุญ โดยจะสร้างอาคารในลักษณะสไตล์ชิโนโปรตุกีส 2 ชั้น กว้าง 4.7 เมตร ยาว 25 เมตร จึงขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันบูรณะศาลเจ้าแสงธรรม เพื่อให้ลูกหลานชาวภูเก็ตได้กราบไหว้บูชาต่อไปในอนาคต
สำหรับศาลเจ้าแสงธรรม หรือศาลเจ้าเต่งก่องต๋อง แปลว่า ศาลแห่งดวงประทีปสว่างไสวไม่มีวันแตกดับ แต่เดิมมีชื่อว่า ศาลเจ้าซินเจียเก้ง เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม โดยบรรพบุรุษชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งในจังหวัดภูเก็ตในยุคบุกเบิกได้ร่วมกันสร้างขึ้น ประมาณปี พ.ศ.2434 และได้รับการดูแลสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ.2540 ศาลเจ้าแสงธรรม เคยได้รับพระราชทานรางวัลอนุรักษ์สถาบันดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยการคัดเลือกของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี พ.ศ.2542 ได้รับการบูรณะศาลเจ้าครั้งใหญ่ โดยให้ยังคงสภาพเดิมไว้ทุกประการ ปี พ.ศ.2543 ได้ทำการเฉลิมฉลองศาลเจ้าที่มีอายุครบ 109 ปี ต่อมาในปี พ.ศ.2545 ได้นำช่างประเทศจีนมาทำการบูรณะตกแต่งประดับหลังคาศาลเจ้า โดยยังคงรูปแบบเดิมไว้ พร้อมทั้งซ่อมผนัง ประตูศาลเจ้า ให้มีสภาพสวยงามดังเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น