เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 มกราคม 2555 ร.ต.ท.ธีระวัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง ร้อยเวรสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายบุญเลิศ ชัยทวีทรัพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าฟ้า ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ม.2 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต ว่ามีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นธนาคาร ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผกก.ป.พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วย รองผกก.สส.พ.ต.ท.วิจักขณ์ ตารมณ์ สว.สส.เจ้าหน้าที่สายตรวจตำบล และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัส พาร์ค สาขาเจ้าฟ้าถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยธนาคารอยู่นอกอาคารของห้างฯ เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยธนาคารอยู่ชั้นล่าง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึงพบกับนางสาวบุญญวรรณ เกษสุวรรณ์ อายุ 25 ปี และนางสาวเสาวรัตน์ กลิ่นกลับ อายุ 24 ปี พนักงานประจำเคาน์เตอร์ของธนาคารดังกล่าว ซึ่งบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ธนาคารจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น.ของทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่กำลังให้บริการลูกค้าซึ่งมาใช้บริการที่เคาน์เตอร์ 1 – 2 ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อแจ็ตเก็ตสีดำ สวมกางเกงยีนต์สีน้ำเงิน สวมถุงมือสีดำ สวมหมวกกันน๊อคสีเหลือง-ขาว
ซึ่งภายในยังใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกด้วย วิ่งเข้ามาภายในธนาคาร โดยวิ่งตรงเข้าไปในห้องผู้จัดการ แต่ในขณะนั้นผู้จัดการไม่อยู่ และทางผู้ช่วยผู้จัดการได้ตะโกนถามว่าเข้าไปทำอะไร จากนั้นคนร้ายก็ได้วิ่งมาที่หน้าเคาน์เตอร์ที่ 1 ซึ่งมีนางสาวบุญญวรรณ เกษสุวรรณ์ นั่งให้บริการลูกค้าอยู่ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ กวาดไปมา ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแตกตื่น และต่างรีบวิ่งออกไป จากนั้นคนร้ายได้โยนกระเป๋าผ้าซึ่งหูหิ้วมีสีม่วงให้ พร้อมพูดเป็นภาษากลางว่า “เอาเงินใส่กระเป๋า เอาเฉพาะแบ็งค์พัน หากขัดขืนจะยิงให้ตาย” ด้วยความกลัวจึงหยิบเงินสดจำนวนหนึ่ง
จากนั้นร้ายก็ได้เอากระเป๋าผ้าใบดังกล่าวไปที่เคาน์เตอร์ 2 โดยมีนางสาวเสาวรัตน์ กลิ่นกลับ อยู่ประจำเคาร์เตอร์ แล้วใช้ปืนส่องไปยังพนักงาน เพื่อให้พนักงานเอาเงินใส่ไปในกระเป๋าใบดังกล่าวอีก ซึ่งทางผู้ช่วยผู้จัดการก็ได้ตะโกนว่าอย่าทำร้ายใคร เพราะมีคนท้องอยู่ด้วย เมื่อคนร้ายได้เงินสมใจแล้วก็วิ่งหลบหนีออกไปจากธนาคารแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าจะมีเพื่อนขับมารออยู่ด้านหลังห้างฯ ห่างจากธนาคารประมาณ 150 เมตร โดยคนร้ายใช้เวลาปฏิบัติการครั้งนี้เพียง 33 วินาที ก่อนที่จะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบพบว่าเงินที่คนร้ายได้ไปนั้น จำนวนประมาณ 694,000 บาท โดยทุกขั้นตอนที่คนร้ายลงมือวงจรปิดของธนาคารบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า การลงมือของคนร้ายในครั้งนี้น่าจะมีการมาดูลาดเลาไว้ก่อน ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของทางห้างฯ เพิ่มเติม และจะได้มีการติดตามตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น