เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ห้องรับรองพิเศษ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายลิน ยังเหว่ย ผู้จัดการบริษัท แปซิฟิก ฮอลิเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายพลัฎฐ์ จันทรโศภิน ที่ปรึกษาบริษัท แปซิฟิก ฮอลิเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต และประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนจากมณฑลเฉินตู ไปให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์จีนที่มณฑลเฉินตูประเทศจีน จำนวน 9 ฉบับ ว่ารับประทานอาหารในร้านอาหารที่ จ.ภูเก็ตแล้วมีอาการท้องเสีย
นายตรี กล่าวว่า ด้วยทางตัวแทนบริษัทฯ ได้เข้ามาพบและชี้แจงข้อเท็จจริงกับตนว่า จากกรณีที่มีหนังสือพิมพ์จีนจำนวน 9 ฉบับนำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนมารับประทานอาหารที่ จ.ภูเก็ตแล้ว เกิดอาการท้องเสีย ว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งการนำเสนอข่าวดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต เพราะมีหลักฐานใบรับรองแพทย์ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เป็นตามที่สื่อหนังสือพิมพ์จีนนำเสนอ ซึ่งหลังจากนี้ในส่วนของจังหวัดก็จะได้ทำการแปลข้อความเป็นภาษาจีนชี้แจงข้อเท็จจริงส่งไปให้กับหนังสือพิมพ์ที่มีการลงข่าวดังกล่าวต่อไป เพราะทางจังหวัดให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
ขณะที่นายลิน ยัง เหว่ย ผู้จัดการบริษัท แปซิฟิก ฮอลิเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปกติทางบริษัทฯ จะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าท่องเที่ยวภูเก็ตและประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะในปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3-4 เท่าตัว จากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 คน แต่ปีนี้เพิ่มขึ้น 2,000-3,000 คน เนื่องจากเขามีความชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติหาดทรายชายทะเลและอาหารที่อร่อย
“เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจากมณฑลเฉินตู ซึ่งเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในระหว่างวันที่ 25-29 มกราคม ที่ผ่านมา จำนวน 41 คน และกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 30 มกราคม 2555 โดยในวันที่ 29 มกราคม 2555 นักท่องเที่ยวได้ไปรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารไทยวิลเลจ หลังจากนั้นในช่วงสายของวันรุ่งขึ้น (30 ม.ค.55 ) มีนักท่องเที่ยวบอกว่ามีอาการท้องร่วง จำนวน 11 คน ทางบริษัทฯ ก็ได้นำตัวไปส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อทำการรักษาซึ่งแพทย์ได้มีการทำประวัติ พบว่ามีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว และมีผู้ป่วย 3 ราย ได้รับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน ส่วนรายอื่นจำนวน 8 ราย รอตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอก แต่เมื่อเรียกผู้ป่วยเข้าตรวจปรากฏว่าไกด์ที่นำผู้ป่วยมาได้พาผู้ป่วยทั้งหมดออกไปจากโรงพยาบาลและไม่สามารถติดต่อได้”
นายลิน ยัง เหว่ย กล่าวว่า ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดนั้นทางบริษัทฯ เป็นผู้จัดการทั้งหมด และในส่วนของนักท่องเที่ยวก็ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ยินยอมจ่าย รวมแล้วปะมาณ 300,000 บาท เนื่องจากเขาขู่ว่าหากไม่จ่ายจะไปบอกกับผู้สื่อข่าวที่ประเทศจีน ด้วยกลัวว่าจะทำให้จังหวัดภูเก็ตเสียชื่อเสียงจึงยอมจ่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อเขาไปถึงแล้วกลับไปให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์จีนถึง 9 ฉบับว่ากินอาหารที่ภูเก็ตแล้วมีอาการท้องเสียถึง 20 คน ทั้งๆ ที่ความจริงมีผู้ท้องเสียเพียง 3 คน จึงอยากชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ตในภาพรวม
ทางด้านนายพลัฎฐ์ จันทรโศภิน ที่ปรึกษาบริษัท แปซิฟิก ฮอลิเดย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวได้เรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ เนื่องจากทำให้เสียเวลา เป็นเงินประมาณ 2,000 ยวน ต่อคน หรือประมาณ 10,000 บาทต่อคน พร้อมกับขู่ว่าฯ หากไม่ชดใช้ค่าเสียหาย จะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปนำเสนอข่าวที่ต่างประเทศ ด้วยเกรงว่าจะทำให้ภาพพจน์ของบริษัทฯ และการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตเสียหาย จึงยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย รวมเป็นเงินประมาณ 300,000 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว เขากลับไปแจ้งข่าวกับสำนักพิมพ์ชื่อดังในมณฑลเฉินตู ประเทศจีน จำนวน 9 ฉบับ ว่ากินอาหารภูเก็ต แล้วมีอาการท้องเสียกว่า 20 คน พร้อมกับมีการแสดงใบรับรองแพทย์ระบุว่าอาหารเป็นพิษ แต่จากข้อเท็จจริงซึ่งตนได้ไปสอบถามจากแพทย์โรงพยาบาลป่าตองได้ยืนยันว่าไม่ได้มีการออกใบรับรองแพทย์ให้แม้แต่ใบเดียว มีเพียงการลงทะเบียนประวัติไว้จำนวน 11 คน เรียกตรวจ 3 คน พบมีอาการลำไส้อักเสบ ส่วนอีก 8 คนที่เหลือพบว่าไกด์พาหายออกไปจากโรงพยาบาล ทั้งๆที่แพทย์ยังไม่ได้เรียกตรวจอาการปวดท้องตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ฉะนั้นการที่เขาไปให้ข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวกว่า 20 คนมีอาการท้องเสียหลังจากรับประทานอาหารที่จ.ภูเก็ตนั้น จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้ไปใช้บริการของภัตตาคารแห่งนี้มาโดยตลอดและไม่เคยมีปัญหา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก และขอยืนยันว่าอาหารที่จังหวัดภูเก็ตปลอดภัยไม่เป็นพิษอย่างที่มีการนำไปเสนอข่าวในประเทศจีน ก็อยากจะขอความร่วมมือสำนักข่าวประเทศจีน หากจะมีการนำเสนอข่าว ขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน เพราะจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น