นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต กรณีการขอแก้ไขการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ว่า กรณีที่มีกลุ่มบุคลหรือบุคคลที่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนและเปิดเผยคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะทำให้เราสามารถที่จะรับทราบได้ว่าเขามีแนวความคิดอย่าง ไรแต่ที่น่าเป็นห่วง คือ กรณีที่มีกระบวนการแจกเอกสารหรือแจกแผ่นซีดีที่มีข้อความที่จาบจ้วงหรือให้ร้ายต่อสถาบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เปิดเผย ฉะนั้นหวังว่าทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะได้มีการติดตามในเรื่องนี้โดยเฉพาะรัฐบาล เพราะว่าบางพวกต่อหน้าสาธารณชนพูดอีกอย่างแต่เมื่อลับหลังก็ไปทำอีกอย่างหนึ่งตรงข้ามกับที่พูดไว้ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปไม่รู้ ส่วนกลุ่มบุคคลหรือองค์กรใดที่ออกมาแถลงด้วยวาจาอย่างเปิดเผยทำให้เราทราบว่าเขาคิดอย่างไรจึงไม่น่าเป็นห่วง
“ขณะนี้กลุ่มกระบวนการที่กระทำการลับหลัง มีการแจกจ่ายเอกสารหรือซีดีในลักษณะข้อความที่ให้ร้ายป้ายสีสถาบันนั้นยังมีอยู่ ซึ่งไม่ทราบว่ามีมากน้อยเพียงใด และไม่ทราบว่ามีการทำอะไรไปบ้างและมากน้อยเพียงใด แต่ที่ผ่านมาเคยมีกลุ่มบุคคลที่ได้รับแจกเอกสารดังกล่าวเคยนำมาร้องกับทางพรรคฯ เพราะเขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ว่าจะแจ้งกับใครด้วยกลัวอันตราย ซึ่งเขาบอกตรงๆ ว่าจะไปแจ้งตำรวจก็ไม่มั่นใจ แม้จะมีความมั่นใจในทหารแต่ด้วยทหารไม่ได้มีหน้าที่ในการสอบสวน ซึ่งจากการที่ได้ยินได้ฟังผู้ที่มีข้อมูลซึ่งมีความรู้สึกห่วงใย ซึ่งตนก็มองว่าการกระทำลับหลังดังกล่าวน่าห่วงมากกว่ากลุ่มหรือองค์กรที่แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย”
นายชวน กล่าวด้วย จากพฤติกรรมที่มีการดำเนินการลับหลังเป็นสิ่งที่น่าห่วงซึ่งประชาชนจะต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตา เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่มีความเคารพรักสถาบัน ไม่อยากให้ใครมาล่วงละเมิดสถาบัน แต่ในบ้านเมืองก็มีทั้งคนดีและไม่ดี ซึ่งต้องเข้าใจ
ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมายืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 นั้น นายชวน กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะพูดยืนยันเช่นนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าคนในรัฐบาลจะปฏิบัติตามที่รัฐบาลยืนยันทุกคนหรือไม่ และจะมีใครที่คิดนอกเหนือจากคำยืนยันของรัฐบาล เพราะที่เราเห็นเมื่อมีการคิดจะแก้ไขกฎหมายฉบับนี้กลุ่มที่เข้าไปสนับสนุนก็จะเป็นกลุ่มเดียวกับสนับสนุนรัฐบาลเช่นกัน ฉะนั้นสิ่งที่ต้องแสดงให้ชัด คือ การพูดกับประชาชน และการปฏิบัติลับหลังประชาชนจะต้องเหมือน ไม่ใช่พูดอย่างแล้วไปปฏิบัติอีกอย่างซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น