เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555 ที่บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าชั่วคราวถี่ก้งตั๋ว นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีขึ้นเสาเอกศาลเจ้าถี่ก่งตั๋วหลังใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านแหลมชั่น หมู่ที่ 2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทดแทนอาคารหลังเก่าซึ่งเสื่อมสภาพ เนื่องจากสร้างมาเป็นเวลากว่า 100 ปี โดยมี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.จ.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต นายปิยวัฒน์ จินจามร นายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี คณะกรรมการศาลเจ้า นำโดยนายสุทิน เทพบุตร ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในการประกอบพิธีเป็นจำนวนมาก
สำหรับศาลเจ้าถี่กงตั๋วหลังใหม่ สร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น ตามแบบสถาปัตยกรรมฮกเกี้ยนโบราณ ออกแบบโดย Mr.Tan Yeow Wooi ชาวมาเลเซีย สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญการออกแบบศาลเจ้าโดยเฉพาะ ใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 40 ล้านบาท โดยชั้นล่างจะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์จีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาอาศัยในจังหวัดภูเก็ต วัฒนธรรมประเพณีของคนจีนฮกเกี้ยนและอื่นๆ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นที่ประดิษฐ์สถานขององค์พระทั้งหมด ซึ่งในการหารายได้นั้นทางคณะกรรมการฯ กำหนดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค ประกอบด้วย เสาชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เสาละ 50,000 และ 30,000 บาท เสาฐานราก เสาละ 10,000 บาท แผ่นทองมหามงคล กระเบื้องมุงหลังกา กระเบื้องปิดชายหลังคา กระเบื้องปูพื้น และอื่น แล้วแต่ประชาชนจะร่วมบริจาค ซึ่งมีการกำหนดราคาไว้อย่างชัดเจน ส่วนอาคารศาลเจ้าถี่กงตั๋วหลังเก่าจะมีการยกย้ายไปตั้งห่างจากอาคารศาลเจ้าหลังใหม่ประมาณ 40 เมตร เพื่อเก็บไว้เป็นโบราณสถานและทำอาคารคลุมไว้ เพราะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการยกย้ายจากสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย
นางเบญจมาศ โกยศิริพงศ์ ประธานจัดสร้างศาลเจ้าถีก่งตั๋ว (หลังใหม่) กล่าวว่า ศาลเจ้าถี่ก่งตั๋ว สร้างขึ้นโดยชาวจีนฮกเกี๋ยน และคนไทยเชื้อสายจีนฮกเกี๋ยน สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งสวรรค์บนพื้นพิภพ มีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นศูนย์รวมแรงศรัทธาและยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนภูเก็ตมาตลอด มีอายุกว่า 100 ปี จากคำบอกเล่าต่อๆ กันมาถึงสาเหตุที่เลือกสร้างศาลเจ้าถี่ก่งตั๋ว บริเวณบ้านแหลมชั่น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของชาวจีนฮกเกี้ยน “ปี้เถ้าจ๋าง” (ชาวจีนที่ไว้ผมเปีย) เป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาสู่เกาะภูเก็ต เพื่อมาทำงานเหมืองแร่ดีบุกรุ่นแรกๆ ที่ยังไม่มีเครื่องจักรกล ทำการขุดหาแหล่งแร่ด้วยจอบ เสียม ขุดเจาะเป็นรูลึกเข้าสู่ใต้ผิวดิน เรียกว่าการทำเหมืองรู
บ้านแหลมชั่นนอกจากจะเป็นสถานที่ทำงานแล้วยังเป็นสถานที่ในการพบปะสังสรรค์ด้วย เนื่องจากชาวจีนเป็นชนชาติที่มีวัฒนธรรมสูง เมื่ออยู่รวมกันก็มีความคิดที่จะสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมตามจารีตประเพณีของตนที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยได้ตั้งคณะผู้แทนขึ้นและมอบหมายให้เดินทางกลับไปยังตำบลบ้านเกิดในประเทศจีน อัญเชิญผงธูป แผ่นป้ายชื่อองค์หยกอ๋องซ่งเต๋ และกิมซิ้น (รูปแกะสลักไม้ปิดทองลงชาด) องค์กวนเต๋กุน องค์จูฉ้อง องค์กวนเป่ง นำมาตั้งบูชา ณ.จุดศูนย์รวมของชาวจีนปี้เถ้าจ๋าง ในอาคารเล็กๆ ต่อมาเมื่อชุมชนขยายเติบโตขึ้น มีทั้งชาวจีนฮกเกี๋ยนและชาวไทยเชื้อสายจีนได้เข้ามาประกอบพิธีกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่คับแคบ จึงได้ร่วมกันระดมทุนและสร้างถี่ก่งตั๋วขึ้นใหม่ให้ใหญ่ขึ้น บนที่ดินของนายหล่อบี้ (แซ่หลอ) และนางขวด ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนและเป็นต้นตระกูลเทพบุตร นอกจากอนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณกุศลแล้ว ยังได้ร่วมกับชาวบ้านแหลมชั่นและใกล้เคียงจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลถี่ก่งตั๋ว มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะตระกูลเทพบุตร ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่ในการดูแลรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศจีนอันเป็นต้นกำเนิดที่บรรพบุรุษได้ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการซ่อมแซมบำรุงรักษาตามกำลังความสามารถอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นางเบญจมาศกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น