จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

รวบ 2 สามี ภรรยาขายยาให้กับวัยรุ่น



เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนางฐิติภัสร์ (หรือเข็ม) ถิรพรพิสุทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/2 ม.4 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายวรุต (หรือรุต) พัฒแก้ว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 ม.5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 2,500 เม็ด ยาไอซ์ 254 ถุง น้ำหนักรวม 349 กรัม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 1 คัน บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า –ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยนโยบายของรัฐบาลให้ปราบปรามยาเสพติดทุกประเภทในพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนำโดยนายวิโรจน์ สุวรรณวงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต เป็นหัวหน้าชุด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ออกกวาดล้างจับกุมยาเสพติดที่ระบาดอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้สิ้นซาก จนกระทั่งได้รับแจ้งจากสายว่า นางฐิติภัสร์ ถิรพรพิสุทธิ์ อายุ 35 ปี และนายวรุต พัฒแก้ว อายุ 31 ปี สองผัวเมียภรรยา เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามพฤติกรรม จนทราบว่านางฐิติภัสร์ กำลังนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าที่ ซอยเกาะแก้ว 24 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเจ้าหน้าที่ขับรถเข้าไปที่ซอยดังกล่าวพบนางฐิติภัสร์ ยืนแสดงท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น แต่นางฐิติภัสร์ ได้นำยาไอซ์ 47 ถุง ยาบ้า 5 ถุง ที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และยอมรับว่าเป็นผู้นำยาบ้าจะมาขายให้แก่วัยรุ่นในซอยดังกล่าว นอกจากนั้นยังสารภาพว่ายังมียาบ้า –ยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง อยู่ในบ้านเลขที่ 104/22 ม.2 บ้านบางโรง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวรุต อยู่ในบ้าน จึงได้เข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในลำโพงวางอยู่ในห้องอีก 207 ถุง ยาบ้า 8 ถุง จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนก็ทราบว่า ยาบ้า-ยาไอซ์ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดทั้งหมด ได้รับมาจากนายโอ๋ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ได้ส่งยาเสพติดมาทางรถขนส่งโดยซุกซ่อนไว้ในลำโพงเพื่อปิดบังสายตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนๆ ละ 20,000 บาท หากจำหน่ายยาเสพติดหมดก็จะได้รับเงินพิเศษอีกจำนวนหนึ่งจากนายโอ๋ และได้ทำมากว่า 1 เดือนเศษ นอกจากนี้นายวรุต พัฒแก้ว เคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้งและพึ่งพ้นโทษออกมา หลังจากพ้นโทษก็ได้มาจำหน่ายยาเสพติดอีกครั้ง เนื่องจากรายได้ดี และมียาเสพติดเสพอยู่ตลอดเพราะนอจากจำหน่ายยาเสพติดยังติดยาเสพติดอย่างงอมแงมอีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น